บ.น้ำมันมะกันใช้แผน “เปิดบ่อน้ำมัน” หวังแก้ปัญหาน้ำมันรั่ว

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - ซีนุก บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลจีน และ ConocoPhillips คู่หุ้นส่วนบริษัทธุรกิจน้ำมันข้ามชาติมะกัน เห็นพ้องร่วมกันดำเนินแผนการเปิดและขุดเจาะบ่อน้ำมันเพื่อลดแรงดันภายในบ่อน้ำมันเผิงไหล ที่อยู่กลางอ่าวปั๋วไห่ มณฑลซานตง ท่ามกลางกระแสวิตกกังวลว่าแผนดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

สืบเนื่องจากบริษัทธุรกิจน้ำมันข้ามชาติมะกัน ConocoPhillips เป็นผู้รับผิดชอบดูแลแท่นขุดเจาะน้ำมัน 2 จุดของบ่อน้ำมันเผิงไหล19-3 ในอ่าวปั๋วไห่ บริเวณมณฑลซานตง ที่รั่วไหลในวันที่ 4 และ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 1 ก.ค. และแม้ทางบริษัทฯได้แถลงว่าดำเนินการเก็บกวาดคราบน้ำมันแล้ว แต่ก็ยังมีน้ำมันดิบรั่วไหลอยู่ โดยคาดว่ามีน้ำมันดิบที่ไหลลงสู่ทะเลทั้งสิ้น 2,100 บาร์เรล

จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า สาเหตุน้ำมันรั่วในครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. เกิดจากการเพิ่มแรงดันในแท่นขุดเจาะน้ำมันบี หลังจากฉีดน้ำเข้าไปในบ่อน้ำมันระหว่างขุดเจาะ ขณะที่เหตุน้ำมันรั่วครั้งต่อมาในวันที่ 17 มิ.ย. เกิดจากแรงสั่นสะเทือนในบ่อน้ำมันที่ทำให้แท่นขุดเจาะน้ำมันซีรั่ว

ล่าสุดบริษัทธุรกิจน้ำมันข้ามชาติมะกัน ConocoPhillips ได้เปิดบ่อน้ำมันเพื่อบรรเทาแรงดันภายในบ่อน้ำมันเผิงไหล 19-3 ที่อยู่กลางอ่าวปั๋วไห่ มณฑลซานตง ซึ่งเป็นการเปิดบ่อน้ำมันครั้งแรกนับตั้งแต่สำนักงานแห่งรัฐเพื่อการบริหารมหาสมุทร (State Oceanic Administration - SOA) ได้สั่งระงับการขุดเจาะน้ำมันเมื่อช่วงต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วต่อเนื่อง

บริษัท ConocoPhillips ได้เผย(12 ก.ย.)ว่า แผนเปิดบ่อน้ำมันดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคู่หุ้นส่วนรายใหญ่ ซีนุก บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลจีน(China National Offshore Oil Corporation - CNOOC) ซึ่งถือหุ้นโครงการขุดเจาะบ่อน้ำมันเผิงไหล 51เปอร์เซ็นต์

บริษัทซีนุก เผยว่า แผนการเปิดบ่อน้ำมันเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับบรรเทาแรงดันภายในบ่อน้ำมัน รักษาสิ่งแวดล้อมและป้องกันน้ำมันรั่ว

ขณะที่เหล่านักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมองว่าแผนการดังกล่าว ซึ่งจะมีการระบายน้ำมัน ก๊าซและน้ำออกมา อาจส่งผลให้สภาพแวดล้อมทางทะเลในบริเวณดังกล่าวแย่ลงไปอีก

หวัง ย่าหมิน ศาสตราจารย์แห่งสถาบันทางทะเลมหาวิทยาลัยซานตง เผยว่า “บริษัทฯจำเป็นต้องใช้มาตรการลดแรงดันในบ่อน้ำมันเผิงไหลฯ และแผนการเปิดบ่อน้ำมันถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่อาจมีความเสี่ยง ขณะเดียวกันแรงดันในชั้นน้ำมันใต้ทะเลอาจมีการผันแปร”

หม่า จวิน ผู้อำนวยการสถาบันกิจการสิ่งแวดล้อมได้เผยว่า บริษัท ConocoPhillips ได้ยอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นระหว่างดำเนินฏิบัติการซ่อมแซมแท่นขุดเจาะน้ำมันและเก็บกวาดคราบน้ำมันรั่ว พร้อมทั้งเผยว่าจะดำเนินแผนการเปิดและขุดเจาะบ่อน้ำมันอย่างระมัดระวัง

ซีนุก เผยว่า ทางบริษัทฯได้สั่งการเฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างละเอียดมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ปฏิบัติการเปิดบ่อน้ำมันเกิดความผิดพลาดอันนำไปสู่การก่อมลพิษทางทะเลเพิ่มขึ้น และแผนการดังกล่าวจะยังอยู่ในเงื่อนไขคำสั่งระงับการขุดเจาะน้ำมันของสำนักงานแห่งรัฐฯ

“แผนการเปิดบ่อน้ำมันนี้อาจป้องกันไม่ให้น้ำมันรั่วไหลมากขึ้น และแตกต่างจากแผนปฏิบัติการขุดเจาะน้ำมันที่เคยใช้ นอกจากนี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้หารือถึงแผนการดังกล่าวแล้ว ซึ่งข้อสรุปคือแผนการฯมีความเป็นไปได้ และควรดำเนินการให้เร็วที่สุด”

ขณะที่บริษัท ConocoPhillips ได้เผยว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเปิดบ่อน้ำมันกี่บ่อ แต่สำหรับการขุดเจาะบ่อน้ำมันของแท่นขุดเจาะน้ำมันบีและซี จะดำเนินการทั้งสิ้น 6 บ่อ

บริษัท ConocoPhillips ได้เผยเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทฯได้รับการอนุมัติจากสำนักงานแห่งรัฐฯ ให้ดำเนินการลดแรงดันในบ่อน้ำมันบางบ่อของแท่นขุดเจาะน้ำมันบีแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดน้ำมันรั่วมากขึ้น

เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานแห่งรัฐฯได้สั่งการให้บริษัท ConocoPhillips ระงับการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวปั๋วไห่ หลังจากบริษัทดังกล่าวไม่สามารถปิดผนึกรูรั่วและเก็บกวาดคราบน้ำมันที่รั่วกระจายกลางทะเลกินพื้นที่กว้างถึง 870 ตารางกิโลเมตร ได้ทันกำหนดเส้นตายภายในวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้สำนักงานดังกล่าวเผยว่า ปฏิบัติการขุดเจาะน้ำมันของบริษัท ConocoPhillips ได้ทำลายโครงสร้างทางธรณีฟิสิกส์ของอ่าวปั๋วไห่ อีกทั้งการขุดเจาะน้ำมันในแท่นขุดเจาะน้ำมันซี ก็ยังละเมิดข้อกำหนดการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม

สำนักงานความปลอดภัยในการทำงานเผยเมื่อวันศุกร์(9 ก.ย.)ว่าจะดำเนินการตรวจสอบกระบวนการด้านความปลอดภัยของบริษัท ConocoPhillips บริษัทปิโตรไชน่า และบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล เป็นเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน

ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุน้ำมันรั่วต่อเนื่อง ที่บ่อน้ำมันเผิงไหล 19-3 ในอ่าวปั๋วไห่ มณฑลซานตง  ซีนุก ได้ประกาศลดปริมาณการขุดเจาะน้ำมันเป้าหมายตลอดทั้งปีราว 9.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กรีปกรุ๊ป ได้เรียกร้องให้บริษัทที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก