เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ / เอเอฟพี - ทนายความจีนฟ้อง ซีนุก บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลจีน และคู่หุ้นส่วนบริษัทธุรกิจน้ำมันข้ามชาติมะกันConocoPhillips กรณีเหตุน้ำมันรั่วจากแท่นขุดเจาะบ่อน้ำมันในอ่าวปั๋วไห่ มณฑลซานตง เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
หนังสือพิมพ์เป่ยจิง ไทมส์ รายงาน(17 ส.ค.)ว่า จยา ฝังอี้ ทนายความจีนได้ยื่นฟ้องบริษัท ConocoPhillips และบริษัทซีนุก เรียกร้องให้ทั้งสองบริษัทหยุดทำลายสิ่งแวดล้อมและเก็บกวาดคราบน้ำมันที่รั่วลงสู่ทะเลให้หมด อีกทั้งเรียกร้องให้บริษัททั้งสองเตรียมจ่ายค่าเสียหายจากการทำลายสิ่งแวดล้อมและจ่ายค่าฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลรวมทั้งสิ้นราว 10,000 ล้านหยวน
นอกจากนี้ จยา ได้เตรียมฟ้องสำนักงานแห่งรัฐเพื่อการบริหารมหาสมุทร (State Oceanic Administration - SOA) ซึ่งมีหน้าที่ตรวจตราดูแลทางทะเล ในข้อหาที่แจ้งข่าวน้ำมันรั่วล่าช้าเป็นเวลาเกือบเดือน
บริษัทธุรกิจน้ำมันข้ามชาติมะกัน ConocoPhillips เป็นผู้รับผิดชอบดูแลแท่นขุดเจาะน้ำมัน 2 จุดของบ่อน้ำมันเผิงไหล19-3 ในอ่าวปั๋วไห่ บริเวณมณฑลซานตง ที่รั่วไหลในวันที่ 4 และ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 1 ก.ค. และแม้ทางบริษัทฯได้แถลงว่าดำเนินการเก็บกวาดคราบน้ำมันแล้ว แต่ก็ยังมีน้ำมันดิบรั่วไหลอยู่ โดยคาดว่ามีน้ำมันดิบที่ไหลลงสู่ทะเลทั้งสิ้น 2,100 บาร์เรล
ทั้งนี้ บ่อน้ำมันเผิงไหล19-3เป็นโครงการขุดเจาะน้ำมันที่ร่วมทุนกันระหว่างบริษัท ConocoPhillips และซีนุก บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลจีน(China National Offshore Oil Corporation - CNOOC) โดยบริษัทมะกันฯถือหุ้น 49 เปอร์เซ็นต์ และซีนุกถือหุ้นร่วมอีก 51 เปอร์เซ็นต์
บริษัทซีนุกและบริษัท ConocoPhillips ได้ขอโทษต่อเหตุการณ์น้ำมันรั่วดังกล่าวแล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท ConocoPhillips ได้เผยว่าจะเก็บกวาดคราบน้ำมันให้หมดภายในสิ้นเดือนส.ค.2554
เมื่อวาน(16 ส.ค.) สำนักงานแห่งรัฐเพื่อการบริหารมหาสมุทรได้ประกาศบนเว็บไซต์ว่าจะจ้างสำนักกฎหมายมาดำเนินการฟ้องร้องบริษัท ConocoPhillips ในข้อหาทำลายสิ่งแวดล้อมและอาจเรียกร้องค่าเสียหายสูงกว่า 100 ล้านหยวน
อีโคโนมิกส์ อินฟอร์เมชั่น อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สำนักงานดังกล่าวว่า รัฐบาลจีนได้ติดต่อไปยังบริษัทConocoPhillips เพื่อถกเรื่องค่าเสียหายแล้ว โดยคาดว่าบริษัทมะกันอาจต้องจ่ายค่าเสียหายมากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า
“ค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียวอาจเกิน 100 ล้านหยวน และยังไม่นับรวมค่าเสียหายในส่วนของการท่องเที่ยวและการประมง”
ดร.ไป๋ จยาอี๋ว์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายทางทะเลแห่งมหาวิทยาลัยโอเชี่ยนจีน ได้ชี้ว่า “ประมวลกฎหมายจีนอนุญาตให้ผู้เคราะห์ร้ายเรียกร้องค่าเสียหายเทียบเท่ากับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง รัฐบาลจีนอาจพิจารณาว่าการฟ้องค่าเสียหายในเชิงลงโทษ(Punitive Damages) ซึ่งเป็นค่าเสียหายที่สูงกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ต่อบริษัท ConocoPhillips อาจทำให้บริษัทต่างชาติรายอื่นๆไม่กล้าเข้ามาลงทุนในจีน”
“ในปี 2545 เกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันต่างชาติชนกับเรือบรรทุกสินค้าจีนบริเวณท่าเรือเทียนจิน อ่าวปั๋วไห่ ทำให้มีน้ำมันดิบนับร้อยตันไหลลงสู่ทะเล ในครั้งนั้นสำนักงานแห่งรัฐเพื่อการบริหารมหาสมุทรได้ฟ้องค่าเสียหายบริษัทของเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าวสูงถึง 100 ล้านหยวนในข้อหาทำลายสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ แต่คดีความยืดเยื้อมาอีก 7 ปี ในที่สุดสำนักงานฯได้ยุติคดีและยอมรับค่าเสียหายเพียงไม่กี่ล้านหยวน”
