เอเอฟพี - ไอ้ เว่ยเว่ย ศิลปินฝีปากกล้า เผยในบทความแรกที่เขียนลงนิตยสารต่างชาตินับแต่ได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า กรุงปักกิ่งเป็นดั่ง “ฝันร้าย” และระบบยุติธรรมจีนไม่สามารถเชื่อใจได้
หลังจากไอ้เว่ยเว่ย ศิลปินผู้วิพากษ์รัฐบาลจีน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกุมตัวไปนานเกือบสามเดือน ในข้อหา “อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ” จากเหตุที่บริษัท “The Beijing Fake Cultural Development” ของนายไอ้เลี่ยงภาษี และได้รับการปล่อยตัวจากคุกเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดเขาได้เขียนบทความวิจารณ์สังคมและระบบยุติธรรมจีน ในนิตยสารต่างประเทศอย่างแสบทรวง
ไอ้ เว่ยเว่ย ได้เขียนวิจารณ์ลงในนิตยสารนิวส์วีค ว่า “สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของรัฐบาลจีนคือ คุณไม่สามารถไว้ใจระบบยุติธรรมได้ เมื่อไว้ใจไม่ได้ คุณก็ไม่สามารถบ่งชี้สิ่งใดได้ มันเป็นเหมือนพายุทราย”
“เมืองนี้(ปักกิ่ง) ไม่ได้หมายถึงผู้คน ตึกอาคาร หรือ ถนนหนทาง แต่มันเป็นเรื่องของโครงสร้างทางจิตใจ...มันเป็นฝันร้ายชัดๆ”
ไอ้ ศิลปินชื่อดังวัย 54 ปีได้เผยว่า “ประสบการณ์อันแสนสาหัสภายใต้เงื้อมมือตำรวจจีน ทำให้ตระหนักว่าผมเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆในระบบที่ไม่เคยให้ความสำคัญกับสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ หากคุณหายตัวไป จะมีแต่ครอบครัวคุณเท่านั้นที่ร้องไห้เสียใจ ขณะที่ครอบครัวคุณจะไม่ได้รับคำตอบใดๆจากคนอื่นๆในชุมชน ตามท้องถนน หรือจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับล่างไปจนถึงผู้นำประเทศ”
“ทุกๆวัน ภรรยาของผมได้เขียนหนังสือร้องทุกข์ในทำนองนี้ อีกทั้งโทรศัพท์ไปยังสถานีตำรวจ เพื่อถามว่า “สามีฉันอยู่ที่ไหน? แค่บอกมาว่าสามีของฉันอยู่ที่ไหน” แต่กลับไม่ได้รับข้อมูลใดๆทั้งสิ้น”
นอกจากนี้ ไอ้ เว่ยเว่ย ยังได้วาดภาพเสียดสีกรุงปักกิ่งว่าเป็นเมืองแห่งอำนาจและเงินตรา ซึ่งผู้คนของรัฐบาล นายจ้าง และผู้ประกอบการบริษัทชั้นนำต่างๆที่อยู่ในเมืองฯ มักใช้ภาพลักษณ์ที่ดีและไหวพริบเฉียบแหลมล่อลวงนักลงทุนต่างชาติเข้ามา
ไอ้ ได้เผยอีกว่า “เมืองอื่นๆมีแต่ความสิ้นหวัง ผมเห็นผู้คนบนรถเมล์และเห็นสายตาของพวกเขาที่ไร้ซึ่งความหวัง” พร้อมเผยว่า “แรงงานอพยพนับล้านคนเป็นดั่งทาสของปักกิ่ง”
จากการถูกจับกุมในข้อหาเลี่ยงภาษี ทำให้นายไอ้ไม่สามารถออกจากกรุงปักกิ่งได้เป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนมองว่า การกักบริเวณนายไอ้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการกวาดจับนักวิจารณ์ผู้มีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาลจีน ท่ามกลางความกังวลกระแสปฏิวัติดอกมะลิจากการลุกฮือของประชาชนในโลกอาหรับอาจแพร่กระจายมาสู่จีน
ทั้งนี้ ไอ้ เว่ยเว่ย นับเป็นหนึ่งในศิลปินจีนที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีผลงานศิลปะแสดงอยู่ที่ Tate Modern พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมีส่วนร่วมในการออกแบบสนามกีฬารังนกสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก2008 ที่กรุงปักกิ่ง อีกทั้งเป็นนักวิจารณ์สังคมชื่อดังในจีนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนอยู่บ่อยครั้ง
นายไอ้ได้ลุยตรวจสอบกรณีอาคารโรงเรียนหลายแห่งพังถล่มลงมาอย่างง่ายดาย ขณะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในมณฑลซื่อชวน(เสฉวน)เมื่อปี 2551 หลังจากหลายคนสงสัยว่า เจ้าหน้าที่รัฐมีการคอรัปชั่น ทำให้การก่อสร้างอาคารไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งติดตามตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริง จากเหตุเพลิงไหม้อาคารสูงในเซี่ยงไฮ้ เมื่อปลายเดือนพ.ย.2553