เอเอฟพี - ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วของไต้หวัน ลั่น (23 ส.ค.) จะสานสัมพันธ์กับจีนอย่างสันติ ในพิธีคารวะผู้วายชนม์ ณ เกาะจินเหมิน พร้อมประกอบพิธีเคาะระฆังสันติภาพ
หม่า อิงจิ่วกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรำลึกฯ ณ เกาะจินเหมิน อันเป็นสถานที่ที่หลายร้อยชีวิตถูกสังหารเป็นเวลา 44 วัน จากการกระหน่ำโจมตีของทหารคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเกิดขึ้นวันที่ 23 ส.ค. ปี 2501 นับเป็นเวลากว่า 50 ปีมาแล้ว
“พวกเราต้องสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรให้กับคนรุ่นต่อไป” หม่ากล่าวบนเกาะจินเหมิน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจีนเพียงไม่กี่กิโลเมตร “พวกเราหวังว่าสันติภาพจะยังคงอยู่ และสงครามจะไม่บังเกิดขึ้นอีก”
สำหรับพิธีการในเชิงสัญลักษณ์ หม่าและแขกคนสำคัญคืออดีตประธานาธิบดีเฟรเดอริก วิลเล็ม เดอ เคลิร์ก ของแอฟริกาใต้ ก็ได้ลั่นระฆังสันติภาพ ซึ่งพิธีดังกล่าวเป็นพิธีทางการ ซึ่งถือเป็นการเฉลิมฉลอง 100 ปี สถาปนาสาธารณรัฐจีน ชื่อทางการของไต้หวันด้วย
หม่า อิงจิ่ว กำลังจะหมดวาระและเลือกตั้งใหม่ในเดือนม.ค. หน้า ต้องพบกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายตรงข้ามว่า พิธีบนเกาะจินเหมินก็ชี้ชัดอยู่แล้ว ว่าหม่ามีแรงบันดาลใจอย่างไร
เหตุการณ์ในปี 2501 ทหารและพลเรือนบนเกาะจินเหมินถูกสังหารไป 618 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 2,600 คน มาถึงปลายทศวรรษ 1970 จีนก็ยังคงโจมตีเกาะนี้อยู่
ในปี 2492 จีนและไต้หวันแบ่งแยกการปกครอง สืบเนื่องจากสงครามกลางเมืองระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์และพรรคก๊กมินตั๋ง เป็นผลให้เจียงไคเช็กแห่งพรรคก๊กมินตั๋งถอยร่นมาปักหลักที่ไต้หวัน แต่จีนก็ยังคงพิจารณา ว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่รอการหวนคืน หากจำเป็นอาจใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามยึดครอง
ความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวันบรรเทาลงหลังจากหม่า อิงจิ่วขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อปี 2551 แต่ความตึงเครียดด้านการทหารและความมั่นคงก็ยังคงออกมาเป็นระยะ ๆ