ไชน่า เดลี/เอเอฟพี - จีนและไต้หวันร่วมมือดำเนินโครงการนำร่องอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่เดินทางไปไต้หวันแบบรายบุคคลได้ ตั้งแต่ 28 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป
หวัง อี้ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการไต้หวันได้ประกาศในงานสัมมนาระหว่างช่องแคบจีน-ไต้หวัน ณ เมืองซย่าเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ว่า “ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ จีนและไต้หวันจะดำเนินโครงการท่องเที่ยวนำร่อง อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่เดินทางไปไต้หวันเป็นรายบุคคลได้ โดยในขั้นแรกจะเปิดให้เฉพาะชาวปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้และซย่าเหมิน ขณะที่ชาวจีนในฝูเจี้ยนก็จะได้รับอนุญาตให้ไปท่องเที่ยวที่เกาะจินเหมิน หมาจู่ และเผิงหู่ แบบรายบุคคลได้เช่นกัน”
หวังเผยว่า “การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้เพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบินต่อสัปดาห์ระหว่างช่องแคบจีน-ไต้หวันอีกมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เป็น 558 เที่ยว และขยายจุดหมายปลายทางโดยจีนจะเปิดท่าอากาศยานรับเที่ยวบินจากไต้หวัน 4 แห่ง ในเมืองเหยียนเฉิง เวินโจว หวงซาน และหลันโจว ขณะที่ไต้หวันเปิดเพิ่ม 2 แห่ง ได้แก่ เมืองไถหนานและเกาสยง ทำให้จำนวนจุดหมายปลายทางสำหรับเที่ยวบินระหว่างช่องแคบไต้หวันเพิ่มเป็น 50 จุด”
จากข้อมูลรัฐบาลไต้หวันระบุ ปี 2553 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมายังไต้หวันมากกว่า 1.63 ล้านคน เพิ่มขึ้น 67 เปอร์เซ็นต์จากปี 2552 โดยส่วนใหญ่มาแบบกรุ๊ปทัวร์
สื่อไต้หวันรายงานว่า อาจมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวรายบุคคลที่เดินทางมายังไต้หวันในแต่ละวันไม่เกิน 500 คน อย่างไรก็ตามเป็นที่คาดการณ์ว่าการผ่อนมาตรการท่องเที่ยวครั้งนี้ อาจทำให้ไต้หวันมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 15,000 ล้านเหรียญไต้หวัน(ราว 521 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ทั้งนี้ หลังจากที่หม่า อิงจิ่วแห่งพรรคก๊กมินตั๋งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน ก็เคลื่อนไหวกระชับสัมพันธ์กับจีน จนบรรลุข้อตกลงครั้งประวัติการณ์ในปี 2551 ได้แก่ การเชื่อมโยงการติดต่อกันโดยตรงทั้งสามด้าน ได้แก่ การคมนาคมทางอากาศ การขนส่งสินค้าทางเรือ และการไปรษณีย์ นอกจากนี้ในปีเดียวกันจีนและไต้หวันได้ผ่อนคลายมาตรการห้ามนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปยังไต้หวันด้วย
อนึ่ง จีนและไต้แบ่งแยกการปกครองมา 60 ปี หลังจากที่เจียงไคเช็กแพ้สงครามกลางเมืองและได้จัดตั้งรัฐบาลขึ้นใหม่ที่ไต้หวัน อย่างไรก็ตามจีนยังคงมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่รอการหวนคืน และหากจำเป็นจีนอาจใช้กำลัง