กลาโหมจีนร้องมะกันหยุดบินสอดแนมจีน

เอเอฟพี - สื่อทางการจีนรายงาน(27 ก.ค.)ว่า กระทรวงกลาโหมจีนได้เรียกร้องให้สหรัฐฯยุติภารกิจการบินสอดแนมบริเวณชายฝั่งทะเลของจีน พร้อมชี้ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างจีน-มะกัน

การออกมาเรียกร้องของกระทรวงกลาโหมจีนในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่สื่อไต้หวันได้รายงาน(25 ก.ค.)ว่า เมื่อช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เครื่องบินขับไล่รุ่น SU-27 จำนวน 2 ลำ ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน(พีแอลเอ) ซึ่งกำลังพยายามขับไล่เครื่องบินสอดแนมอเมริกัน U2 ของสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติภารกิจบินเลียบแนวช่องแคบไต้หวันเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับจีนแผ่นดินใหญ่

สื่อไต้หวันได้รายงานว่า เครื่องบินขับไล่ดังกล่าวของกองทัพพีแอลเอได้บินรุกผ่านจุดกลางของช่องแคบไต้หวัน อันเป็นเส้นแบ่งเขตน่านฟ้าระหว่างไต้หวันและจีน โดยมีเครื่องบินฯลำหนึ่งไม่ยอมบินกลับ จนกระทั่งไต้หวันต้องส่งเครื่องบินขับไล่รุ่น F-16 ของกองทัพอากาศไต้หวันขึ้นไปสกัดกั้น

โกลบอล ไทมส์ สื่อกระบอกเสียงรัฐบาลจีนรายงานว่า กระทรวงกลาโหมจีนได้เผยว่าสหรัฐฯต้องยุติภารกิจการบินสอดแนมในบริเวณชายฝั่งทะเลของจีน ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์และส่งผลต่อความเชื่อใจระหว่างจีน-มะกัน

ในรายงานข่าวของโกลบอล ไทมส์ ระบุด้วยว่า กระทรวงกลาโหมจีนได้เรียกร้องให้สหรัฐฯเคารพในอำนาจอธิปไตยและหลักสวัสดิภาพความมั่นคงของจีน พร้อมขอให้สหรัฐฯใช้มาตรการส่งเสริมและพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารที่เป็นรูปธรรมกับจีน

ในอดีตที่ผ่านมาวอชิงตันได้เคยกล่าวไว้ว่า กองบินสอดแนมของสหรัฐฯจะปฏิบัติภารกิจการบินในน่านฟ้าสากลอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอด

ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-มะกัน เริ่มตึงเครียดมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากกรณีที่สหรัฐฯได้ส่งเรือรบมาร่วมซ้อมรบกับเวียดนามในบริเวณเขตน่านน้ำในทะเลจีนใต้ เมื่อช่วงต้นเดือนก.ค. ซึ่งกำลังเป็นประเด็นข้อพิพาทที่จีน,เวียดนาม,มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, บรูไน, ฟิลิปปินส์ รวมทั้งไต้หวัน ต่างอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำดังกล่าวอันอุดมไปด้วยทรัพยากรก๊าซธรรมชาติ อีกทั้งกรณีที่สหรัฐฯได้ขายอาวุธให้ไต้หวันเมื่อช่วงต้นปี 2553

ทั้งนี้ จีนและไต้หวันได้แบ่งแยกการปกครองกันตั้งแต่ปี 2492 หลังจากพรรคก๊กมินตั๋งแพ้สงครามกลางเมืองเป็นผลให้เจียงไคเช็กแห่งพรรคก๊กมินตั๋งถอยร่นมาปักหลักที่ไต้หวัน แต่จีนก็ยังคงยืนยันว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่รอการรวมชาติ หากจำเป็นอาจใช้กำลังทหารเข้ายึดครอง

อนึ่ง สหรัฐฯได้ยอมรับสถานะความเป็นรัฐแก่ปักกิ่งและเลิกยอมรับไต้หวัน แต่ก็ยังคงให้การสนับสนุนทางทหารแก่ไต้หวัน ภายใต้กฎหมายปี 1979 ของคองเกรส โดยสหรัฐฯอ้างว่า “เพื่อประโยชน์ของไต้หวันในการป้องกันตนเอง”

ไมค์ มูลเลน ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐอเมริกา ได้เผยในนิวยอร์ก ไทมส์สัปดาห์นี้ ว่า “ขณะนี้วอชิงตันกำลังพิจารณาที่จะให้มีการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่กลาโหมกับจีน เพื่อให้มีการสื่อสารระหว่างกันมากขึ้น”