เอเยนซี - จีนประกาศเมื่อวันพุธ (20 ก.ค.) ว่ายอดผู้เสียชีวิตในเหตุปะทะที่สถานีตำรวจเมืองโฮทัน เขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูรซินเจียงนั้น มีทั้งหมด 18 คน เป็นผู้ก่อจลาจล 14 ตำรวจ 2 และตัวประกันอีก 2 ไม่ใช่ 20 คนดังที่สภาอุยกูร์โลกรายงาน
ก่อนหน้านี้ รายงานข่าวของรัฐบาลจีน (18 ก.ค.) ชี้ การปะทะเป็นการโจมตีของกลุ่ม "ลัทธิก่อการร้าย" พร้อมระบุว่ามีผู้บริสุทธิ์และตำรวจถูกสังหาร 4 คน ขณะที่สภาอุยกูร์โลกระบุว่า เป็นการใช้กำลังทำร้ายผู้ที่มาชุมนุมอย่างสันติ
สภาอุยกูร์ฯ ชี้ว่า มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวอุยกูร์ 20 คน โดยถูกทุบตีจนเสียชีวิต 14 คนและถูกยิงอีก 6 คน ถูกจับกุมไป 70 คน ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบกลุ่มผู้ประท้วง อันนำมาสู่การปะทะรุนแรงทั้งสองฝ่าย
ซินเจียง เป็นพื้นที่ใหญ่เป็นสองเท่าของประเทศไทย แม้เป็นเขตแห้งแล้งยากจนแต่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีชายแดนติดกลุ่มประเทศเอเชียกลาง มีประชากรชนชาติอุยกูร์กว่า 8 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่นักถือศาสนามุสลิม
ซินเจียงจัดเป็นพื้นที่อ่อนไหวทางการเมืองสืบเนื่องจากความขัดแย้งชนชาติส่วนน้อยระหว่างอุยกูร์และชาวจีนฮั่น ความขัดแย้งยิ่งทวีอุณหภูมิสูงขึ้น หลังจากที่เกิดเหตุจลาจลระหว่างชาวจีนฮั่นและอุยกูร์ในเมืองเอกอูหลู่มู่ฉี เมื่อเดือนก.ค.ปี 2552 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 197 คน และบาดเจ็บร่วม2,000 คน นับเป็นความขัดแย้งระหว่างชนชาติที่แรงสุดในรอบหลายทศวรรษของจีน เหตุดังกล่าวทำลายความฝันของรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ที่ต้องการเอกภาพและความสมานฉันท์ ให้แตกลงเป็นเสี่ยงๆ และเหตุการณ์ฯ ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงสุดในปีนี้
ฝ่ายเว็บไซต์ของรัฐบาลท้องถิ่นมณฑลซินเจียง (www.xinjiang.gov.cn) ชี้ว่า ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อจลาจลไป 14 คน หลังจากส่งเสียงเตือนแล้วไม่ฟัง พร้อมเสริมว่า ผู้ก่อจลาจลจำนวน 18 คนพร้อมด้วยอาวุธได้หลบเข้ามาในเมืองโฮทันก่อนหน้าที่จะเกิดการปะทะหลายวันมาแล้ว
รายงานฯ ชี้ว่า ผู้ก่อจลาจลมีทั้งขวาน มีด ดาบสั้น ระเบิดมือรุ่นโมโลตอฟ คอกเทล และระเบิดอื่น ๆ ได้เข้าจู่โจมทั้งทุบทำลาย จุดไฟเผาสถานีตำรวจอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับขึ้นไปแขวนธงชาติของศาสนาบนยอดหลังคาสถานีตำรวจด้วย
รายงานระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และตัวประกันอีก 2 คน เสียชีวิตในระหว่างการปะทะ และตำรวจจับกุมผู้ก่อจลาจลได้อีก 4 คน
รายงานชี้ว่า “เหตุการณ์ครั้งนี้มีการจัดการและวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยจะใช้กลุ่มก่อการร้ายมาสร้างความรุนแรงอย่างหนักในสำนักงานของรัฐระดับท้องถิ่น”
รอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลที่แตกต่างกันของทั้งฝ่ายรัฐบาลจีนและสภาอุยกูร์โลกยังเชื่อไม่ได้ว่าเป็นความจริงทั้งหมด
เว็บไซต์ฯ ชี้ให้เห็นภาพถ่ายในช่วงเหตุปะทะฯ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถือปืนกรูกันเข้าไปในสถานีตำรวจ ขณะที่อีกภาพเป็นภาพไฟไฟม้ อย่างไรก็ตามบรรดานักข่าวฯ ยังไม่สามารถหาภาพเหตุการณ์จริงมาเสนอได้
ความกดขี่ยิ่งทำให้เลวร้าย
กลุ่มนักสิทธิชี้ว่า ซินเจียงยังอยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงอย่างเข้มงวด ในช่วง 2 ปีหลังจากเกิดเหตุจลาจลในเมืองอูหลู่มู่ฉี โดยชาวจีนฮั่นและชาวอุยกูร์ เมืองเอกของมณฑลซินเจียง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปเกือบ 200 คน นับจากนั้น จีนได้ประหารชีวิตนักโทษก่อเหตุจลาจลไป 9 ราย พร้อมกักบริเวณ จับกุมคุมขังอีกหลายร้อย
สำนักข่าวโกลบอลไทมส์ กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองโฮทัน จะไม่นำมาสู่ความล่มสลาย ดังที่ตะวันตกต้องการจะให้เป็น
“เหตุการณ์นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบใหญ่โตอะไร ต่อให้เกิดขึ้นในใจกลางจัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่งก็ยังไม่ถือว่าสั่นคลอนเสถียรภาพได้”
“ใครที่คิดว่าสังคมจีนจะต้องล่มสลายถือว่าประเมินคนจีนทั้งชาติต่ำเกินไป”
“จีนยังคงยืนหยัดต่อต้านการก่อการร้าย และจีนจะไม่ฟังเสียงประณามที่ไร้เหตุผลจากตะวันตก” โกลบอลไทมส์เผย
ประเทศจีนเผชิญศึกรุนแรงจากความขัดแย้งชนชาติส่วนน้อย ได้แก่ การจลาจลในทิเบตปี 2551 และในเขตปกครองตัวเองชนชาติมองโกล มณฑลมองโกเลียในเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง
สำหรับทิเบต จีนจัดงานวันฉลองครบรอบ 60 ปี จีนปกครองทิเบต และในวันที่ 19 ก.ค. รองประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ลั่น “ไม่ว่าภัยคุกคามอันใดที่จะมาทำลายเสถียรภาพของทิเบต จีนจะบดขยี้ให้สิ้น” จีนเชื่อว่ากลุ่มผู้สนับสนุนทะไลลามะเป็นพวกแบ่งแยกดินแดนด้วย