เอเอฟพี - รัฐบาลจีนประกาศ (21 มิ.ย.) “โรคไข้อีดำอีแดง” โรคร้ายที่ทำให้เด็กเสียชีวิต กำลังระบาดหนักในฮ่องกง หลังจากพบว่าทั้งเมืองมีการติดเชื้อโรคนี้แล้วหลายร้อยคน
โฆษกประจำศูนย์พิทักษ์สุขภาพฮ่องกง เผยว่า “เด็กหญิงวัย 7 ขวบในเมืองทางตอนใต้ของจีนเสียชีวิตเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อปีนี้มีกว่า 400 รายแล้ว”
ในฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อไข้อีดำอีแดงในปีนี้ 419 ราย ซึ่งนับเป็นตัวเลขสูงสุดหากเทียบกับปี 2553 โดยปีนี้ยอดรวมสูงกว่าปีที่แล้วกว่า 3 เท่าตัว ครึ่งปีแรกของปีที่แล้วมีเพียง 142 รายเท่านั้น
“เราเพิ่งจะพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อปีนี้สูงมาก จนต้องจัดว่าเป็น การระบาดอย่างหนัก” โษฆกประจำศูนย์ฯ เผย
นักวิทยาศาสตร์ฮ่องกง เผยว่า การระบาดอาจเป็นเพราะเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น
แถลงการณ์ของศูนย์พิทักษ์สุขภาพเมื่อวันจันทร์ (20 มิ.ย.) เผยว่า “การแตกตัวของยีนส์เดี่ยวในแบคทีเรีย อาจจะทำให้เชื้อโรคสายพันธ์นี้สามารถแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น”
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า “เชื้อโรคสายพันธ์ใหม่นี้ ค้นพบโดยนักวิจัยประจำมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งเชื้อโรคดูเหมือนว่าจะดื้อยาปฏิชีวนะด้วย”
เจ้าหน้าที่ฮ่องกงกำลังรับมืออย่างหนักกับการระบาดของโรคนี้ หลังจากที่เมื่อปี 2546 โรคซาร์ระบาด คร่าชีวิตผู้คนในฮ่องกงไปราว 300 คน และทั่วโลกกว่า 500 คน นอกจากนั้น ฮ่องกงที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น 7 ล้านคน ยังต้องประสบกับความสูญเสียจากไข้หวัด 2009 ด้วย
โธมัส ซัง เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคศูนย์พิทักษ์สุขภาพ ยกระดับการระบาดในครั้งนี้ให้เป็น “โรคระบาด” แล้ว
แถลงการณ์ของรัฐบาลจีนเผย “ทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ และเกาะมาเก๊า หากนั่งเรือข้ามฟากจากฮ่องกงใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียว ดังนั้นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ของโรคไข้อีดำอีแดงอย่างใกล้ชิด”
เซี่ย หงซิ่ง อดีตประธานสมาคมแพทยศาสตร์ฮ่องกง คาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้อีดำอีแดงจะเพิ่มสูงขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ “เราคิดว่าผู้ป่วยต้องเพิ่มขึ้นแน่ แต่ไม่อาจคาดได้ว่าเท่าไร เพราะเชื้อโรคเริ่มดื้อยามากขึ้นแล้ว”
ไข้อีดำอีแดง หรือ Scarlet fever มักจะติดเชื้อในเด็กที่มีอายุระหว่าง 2-8 ปี โดยจะมีอาการไข้ เจ็บคอ ผื่นคัน และลิ้นจะมีสีแดงคล้ายสตรอเบอรี และอาการจะทุเลาภายใน 48 ชม. หากได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม