เอเจนซี-มลพิษจากสารตะกั่วจากโรงงานทำแผ่นอลูมิเนียมในจีนพ่นพิษใส่ประชาชนครั้งใหญ่อีกระลอก โดยมีเด็ก 103 คน ได้รับสารตะกั่วสูงมาก และประชาชนที่อาศัยในบริเวณหลายร้อยคนมีระดับสารตะกั่วน่าวิตก จากรายงานข่าวสำนักข่าวซินหวาอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผยเมื่อวันอาทิตย์(12 มิ.ย.)
กรณีมลพิษสารตะกั่วที่ทำลายสุขภาพประชาชนครั้งล่าสุดนี้ เกิดจากโรงงานทำแผ่นอลูมิเนียมในเมืองหยังซุ่นเฉียว อำเภอเซ่าซิง มณฑลเจ้อเจียง โดยมีเหยื่อเคราะห์ร้าย ได้แก่ เด็ก 103 คน อายุ 14 หรืออ่อนกว่า มีระดับสารตะกั่ว 250 ไมโครกรัมหรือสูงกว่าในเลือดหนึ่งลิตร และผู้ใหญ่ 26 คน มีสารตะกั่วในเลือดสูง มากกว่า 600 ไมโครกรัมต่อเลือดหนึ่งลิตร
เหยื่อสารพิษครั้งนี้เป็นคนงานและสมาชิกในครอบครัว ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย ได้สัมผัสกับวัตถุดิบสารตะกั่วในโรงงานซึ่งเป็นกิจการดำเนินการโดยครอบครัว ขณะนี้เด็กนับสิบคนถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
นอกจากนี้ ผู้อาศัยในเมืองโรงงานตะกั่วแห่งนี้ เกือบ 500 คน มีสารพิษระดับปานกลาง 400 ถึง 600 ไมโครกรัมต่อเลือดหนึ่งลิตร
ทั้งนี้ ชาวจีนตามเขตต่างๆทั่วประเทศจีนตกเป็นเหยื่อมลพิษตะกั่ว ซึ่งกลายเป็นข่าวใหญ่หลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ประชาชนที่ได้รับสารพิษดังกล่าวอาศัยห่างออกไปไม่กี่เมตรจากกลุ่มโรงงานที่ปล่อยมลพิษอย่างไม่ใส่ใจกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัย
อาการป่วยจากตะกั่วในเลือดอาจมาจากการได้รับสารตะกั่วปริมาณเล็กน้อยเป็นประจำ สั่งสมเป็นสารพิษร้ายแรง ที่อาจทำลายระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และไต รวมทั้งเกิดความดันโลหิตสูงและภาวะโลหิตจาง ตะกั่วเป็นอันตรายต่อเด็กๆมาก ทำให้มีปัญหาการเรียนรู้และพฤติกรรม
กระทรวงสิ่งแวดล้อมได้เรียกร้องให้มีการดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อขจัดปัญหาสารพิษจากโลหะหนักที่พ่นพิษใส่ประชาชนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ล้มเหลว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างอัตราเติบโต รายได้ และงานอาชีพ มากกว่าการปกป้องสิ่งแวดล้อม
กรณีสารตะกั่วทำพิษในปี 2552 สร้างความโกรธแค้นแก่ประชาชน ถึงกับบุกทำลายโรงงานหลอมโลหะที่ปล่อยสารพิษทำร้ายเด็กมากกว่า 600 คน พวกเขาพังรถบรรทุกและพังรั้วจนกระทั่งตำรวจเข้ามายุติเหตุการณ์
สำหรับกรณีมลพิษตะกั่วที่หยังซุ่นเฉียวครั้งล่าสุดนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดการระงับการผลิตของโรงงาน 25 แห่ง ทั้งนี้ ในเมืองหยังซุ่นเฉียวมีโรงงานผลิตแผ่นอลูมิเนียมราว 200 ราย มีการจ้างคนงานมากกว่า 2,500 คน โดนส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพ.