สธ.จับตาพิเศษ หวัดใหญ่ 2009 หวั่นเกิดการกลายพันธุ์ หลังพบเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเสียชีวิต พร้อมหมูในฟาร์มที่ติดเชื้อไวรัสหมู แจงวัคซีน 2.8 ล้านโดสในปีนี้ ฉีดให้กลุ่มเสี่ยง เน้นผู้สูงอายุ กับผู้ป่วยโรคเรื้อรังก่อน เริ่มตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป
วันนี้ (9 มิ.ย.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า ยังคงพบการระบาดต่อเนื่องแต่เปลี่ยนจากการระบาดในวงกว้างมาเป็นการระบาดในวงเล็กอย่างในสถานศึกษา ค่ายทหาร และสถานประกอบการแทน และแม้จะมีอัตราการป่วยติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงจากปีก่อน แต่กลับพบกลุ่มผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตนอกเหนือจาก 6 กลุ่มเสี่ยงเดิมที่เคยกำหนดให้เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ คือ กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี หญิงตั้งครรภ์ ผู้พิการทางสมอง และบุคคลากรทางการแพทย์ มาเป็นกลุ่มคนทั่วไปมากขึ้น
“ล่าสุด พบชายวัย 50 ปี แถบภาคอีสาน มีอาชีพเลี้ยงสุกรเสียชีวิตจากการติดไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และพบสุกรที่ชายคนดังกล่าวเลี้ยงไว้ก็ป่วยติดเชื้อไวรัส PRRS หรือโรคทางระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจ ในสุกร ยิ่งทำให้กลัวกันว่าจะมีโอกาสที่เชื้อทั้งในสัตว์และคนจะรวม และเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีความสามารถในการแพร่ระบาดได้มากและรุนแรงยิ่งกว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 และอาจกลายเป็นเชื้อที่ระบาดระหว่างคนกับสัตว์ได้ จึงต้องมีการเฝ้าระวังต่อเนื่องเป็นพิเศษ”นพ.สุวรรณชัย
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดหาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ จำนวน 2.8 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรง เน้นฉีดให้ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัวก่อน เริ่มตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป หากเหลือจะทยอยฉีดให้กลุ่มเสี่ยงอีก 4 กลุ่ม สำหรับสถิติผู้ป่วยโรคโรคไข้หวัดใหญ่ ปี 2553 พบคนไทยป่วยทั้งสิ้น 112,750 คน ในจำนวนนี้ยืนยันเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 สายพันธุ์ H1N1 16,455 คน เสียชีวิตรวม 169 คน เป็นผู้ที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัส H1N1 รวม 150 คน ที่เหลือเสียชีวิตจากสายพันธุ์ทั่วไปขณะที่ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งสิ้น 11,422 คน ยืนยันเป็นเชื้อ H1N1 551 คน เสียชีวิต 6 คนซึ่งทั้งหมดเกิดจากเชื้อไวรัส
วันนี้ (9 มิ.ย.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า ยังคงพบการระบาดต่อเนื่องแต่เปลี่ยนจากการระบาดในวงกว้างมาเป็นการระบาดในวงเล็กอย่างในสถานศึกษา ค่ายทหาร และสถานประกอบการแทน และแม้จะมีอัตราการป่วยติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงจากปีก่อน แต่กลับพบกลุ่มผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตนอกเหนือจาก 6 กลุ่มเสี่ยงเดิมที่เคยกำหนดให้เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ คือ กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี หญิงตั้งครรภ์ ผู้พิการทางสมอง และบุคคลากรทางการแพทย์ มาเป็นกลุ่มคนทั่วไปมากขึ้น
“ล่าสุด พบชายวัย 50 ปี แถบภาคอีสาน มีอาชีพเลี้ยงสุกรเสียชีวิตจากการติดไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และพบสุกรที่ชายคนดังกล่าวเลี้ยงไว้ก็ป่วยติดเชื้อไวรัส PRRS หรือโรคทางระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจ ในสุกร ยิ่งทำให้กลัวกันว่าจะมีโอกาสที่เชื้อทั้งในสัตว์และคนจะรวม และเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีความสามารถในการแพร่ระบาดได้มากและรุนแรงยิ่งกว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 และอาจกลายเป็นเชื้อที่ระบาดระหว่างคนกับสัตว์ได้ จึงต้องมีการเฝ้าระวังต่อเนื่องเป็นพิเศษ”นพ.สุวรรณชัย
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดหาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ จำนวน 2.8 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรง เน้นฉีดให้ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัวก่อน เริ่มตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป หากเหลือจะทยอยฉีดให้กลุ่มเสี่ยงอีก 4 กลุ่ม สำหรับสถิติผู้ป่วยโรคโรคไข้หวัดใหญ่ ปี 2553 พบคนไทยป่วยทั้งสิ้น 112,750 คน ในจำนวนนี้ยืนยันเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 สายพันธุ์ H1N1 16,455 คน เสียชีวิตรวม 169 คน เป็นผู้ที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัส H1N1 รวม 150 คน ที่เหลือเสียชีวิตจากสายพันธุ์ทั่วไปขณะที่ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งสิ้น 11,422 คน ยืนยันเป็นเชื้อ H1N1 551 คน เสียชีวิต 6 คนซึ่งทั้งหมดเกิดจากเชื้อไวรัส