เอเจนซี - เศรษฐกิจ ที่เฟื่องสุด ๆ ของจีนเวลานี้ได้สร้างชนชั้นนายทุนผู้ประกอบการ ซึ่งมีเงินทองเหลือเฟือสำหรับซื้อเครื่องประดับบารมีความเป็นเศรษฐีอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือเครื่องบินเจ็ตสำหรับผู้บริหาร
นี่คือโอกาสทองสำหรับบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินชั้นนำของโลก ซึ่งกำลังแข่งกันทำทุกวิถีทาง เพื่อสนองตอบความต้องการนั้น
นายจัสติน ลี ไฟร์สโตน กรรมการผู้จัดการของไฟร์สโตน เมเนจเมนต์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเครื่องบินส่วนตัวเล่าว่า เมื่อสิบปีที่แล้ว เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวยังไม่ใช่สิ่งจำเป็นนักในเมืองจีน และมีเพียงไม่กี่ลำในฮ่องกง แต่เมื่อสิ้นเดือนเม.ย.ของปีนี้ มีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว 90 ลำ ที่จดทะเบียนในจีน เครื่องบินเหล่านี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์ โดย 10 ลำมีการส่งมอบเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ต้นเดือนม.ค มา
นายไฟร์สโตนชี้ว่า หากเทียบกับเศรษฐกิจโลก ที่ยังอ่อนแอในเวลานี้ จำนวนเครื่องบินเหล่านั้นรียกได้ว่าเป็นตัวเลขที่เปรี้ยงปร้างทีเดียว
ด้านนายเจสัน เหลียว ซึ่งลาออกจากงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบริษัทบอมบาร์เดียร์ในกรุงปักกิ่งเมื่อปีที่แล้ว มาตั้งบริษัทไชน่า บิสซิเนส เอวิเอชั่น กรุ๊ป ซึ่งให้บริการช่วยเหลือลูกค้าในการซื้อเครื่องบินส่วนตัว คาดการณ์ว่า จะมีการส่งมอบเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว 70 ลำในจีนปีนี้ ซึ่งเพิ่มจำนวน 2 เท่าจากเมื่อปีที้แล้ว และเป็นยอดจำหน่าย ที่พุ่งฉลุยอย่างน่าประทับใจมาก โดยบริษัทของนายเหลียวเองสามารถคว้าสัญญา 8 ฉบับ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อเดือนก.ย. ปีที่แล้ว
ด้านบริษัทแอร์บัสของยุโรปจนถึงขณะนี้ขายเครื่องบินส่วนตัวตระกูลคอร์เปอเรตเจ็ตได้แล้ว 20 ลำในจีน และคาดว่า จะมีการสั่งซื้อเครื่องบิน ซึ่งมีเนื้อที่กว้างนี้ถึงปีละ 5 ลำ โดยจีนกลายเป็นตลาดหนึ่งของแอร์บัสไปแล้ว นายฟร็องซัว ชาเซล รองประธานฝ่ายคอร์เปอเรตเจ็ตของแอร์บัสระบุ
ในงานแอร์โชว์ที่ฮ่องกงเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา แอร์บัสเปิดตัวห้องผู้โดยสารของคอร์เปอเรตเจ็ต ซึ่งออกแบบเอาใจรสนิยมชาวเอเชียโดยเฉพาะ เรียกแนวคิดการตกแต่งนี้ว่า “ฟีนิกซ์” โดยภายในเน้นสีแดง ซึ่งเป็นสีแห่งโชคลาภตามความเชื่อของชาวจีนเป็นหลัก มีเครื่องเล่นคาราโอเกะ มีโต๊ะกลมสำหรับรับประทานอาหารค่ำแบบครอบครัวตามวัฒนธรรมของชาวเอเชีย โต๊ะนี้ยังสามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะสีเหลียมสำหรับเล่นไพ่นกกระจอกหลังมื้ออาหารได้อีกด้วย
ด้านบอมบาร์เดียร์บริษัทสัญชาติแคนาดาคาดการณ์ว่า จีนจะเป็นตลาดรายใหญ่อันดับ 3 ของตนในอีกหนึ่งทศวรรษข้างหน้า รองจากอเมริกาเหนือ และยุโรป โดยทำนายว่าบรรดาบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินจะส่งมอบเครื่องบินส่วนตัวแบบบิสซิเนตเจ็ตแก่จีนจำนวน 960 ลำภายในปี 2563 และแบบอื่น ๆ อีก 1,400 ลำภายในปี 2573
อย่างไรก็ตาม โอกาสทอง ที่มองเห็นยังคงมีอุปสรรคจากข้อจำกัดบางประการบนแดนมังกร ที่อาจขัดขวางการเติบโตของอุตสาหกรรม อาทิ ปัจจุบัน เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ซึ่งจดทะเบียนในจีนสามารถขึ้นบินได้ภายใต้การดำเนินการของบริษัท ซึ่งได้รับใบอนุญาต 1 ใน 5 บริษัทเท่านั้น แตกต่างจากในสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ ที่มีเครื่องบินส่วนตัวมักจะมีแผนกเที่ยวบินของบริษัทเองด้วย
ข้อจำกัดด้านน่านฟ้า ซึ่งปัจจุบันควบคุมโดยกองทัพ และเปิดให้การบินพลเรือนได้เพียงร้อยละ 30 นอกจากนั้น เครื่องบินเดินทางได้บนเส้นทาง ซึ่งถูกจำกัดระหว่างสนามบินเท่านั้น หากสภาพอากาศไม่ดีย่อมไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางบินอ้อมได้ และต้องลงจอดในที่สุด
ข้อจำกัดเกี่ยวกับนักบินในจีน ซึ่งยังขาดแคลนนักบิน ที่ผ่านการฝึกอบรมอยู่มาก หรือข้อจำกัดเกี่ยวกับช่องลงจอดที่สนามบินสำหรับเที่ยวบินส่วนตัว
กระนั้นก็ดีอุตสาหกรรมเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวยังสบายใจได้ เพราะทางการจีนก็ได้มีการผ่อนคลายกฎระเบียบ และข้อจำกัดด้านน่านฟ้ามาเป็นลำดับ เพื่อตอบสนองการขยายตัวของอุตสาหกรรมเช่นกัน อาทิ การขออนุญาตขึ้นบินใช้เวลาเพียง 1-3 วัน หรือบางกรณีใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง จากเดิมต้องยื่นเรื่องล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ต่อฝ่ายการบินพลเรือน
และเหตุผลสำคัญที่สุด ที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า อุตสาหกรรมเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวบนแดนมังกรจะเฟื่องฟูก็เพราะบริษัทและเศรษฐีในเมืองจีนเองตระหนักดีว่า เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวนี้มิใช่เป็นเพียง“ของเล่น” แต่มันคือ“เครื่องมือ”ทางธุรกิจ ที่จะพาพวกเขาเดินทางไปยังสถานที่หลายแห่งได้ภายในวันเดียว ซึ่งจะสร้างกำไรให้มากกว่าการขาดทุนอย่างแน่นอน