มีหวังริบหรี่ว่า จีนจะจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้เสียชีวิตเทียนอันเหมิน

เอเอฟพี - ญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เทียนอันเหมิน เผย (31 พ.ค.) ว่า เป็นครั้งแรกที่ตำรวจจีนยกประเด็นความเป็นไปได้ที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ที่ถูกสังหารในเหตุการณ์นองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อปี 2532 มาพูดคุยกัน

ตำรวจจีนได้พบปะกับญาติผู้เสียชีวิตคนหนึ่ง 2 ครั้งตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้กลุ่มเทียนอันเหมิน มาเธอร์ (Tiananmen Mothers) เผยว่า นั่นเป็นสัญญาณแห่งความเป็นได้ว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังเปลี่ยนมุมมองต่อเหตุการณ์นองเลือด 4 มิ.ย. ที่เกิดในใจกลางกรุงปักกิ่งเสียใหม่

กลุ่มเทียนอันเหมิน มาเธอร์ฯ เผยเนื้อหาในจดหมายแถลงการณ์ช่วงพิธีรำลึกครบรอบเหตุการณ์ฯ ว่า อย่างไรก็ตามพวกเขาขอตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีการจ่ายค่าชดเชยว่าจะจ่ายเท่าไร พร้อมกับย้ำว่า การติดต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตนี้เพิ่งจะทำเพียงกรณีเดียว ส่วนกับครอบครัวอื่นกลุ่มอื่นที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ยังไม่ได้รับการแยแส

จดหมายเปิดผนึกระบุว่า “อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่ได้พูดแสดงความขอโทษอย่างเป็นทางการ และไม่ได้แสดงความรับผิดชอบต่อคำสั่งยิงประชาชนในครั้งนั้น”

กลุ่มฯ ได้เคยส่งคำร้องครั้งแล้วครั้งเล่าไปยังรัฐบาลในรอบ 16 ปีที่ผ่านมา แต่ทางการก็เพิกเฉย แต่ปีนี้ ในที่สุดแสงแห่งความหวังก็ค่อย ๆ ฉายขึ้นทีละน้อยแล้ว

จดหมายเรียกร้องนี้สมาชิกกลุ่มฯ จำนวน 127 คน ซึ่งเป็นญาติกับผู้เสียชีวิตในการปราบปรามครั้งนั้นร่วมกันลงนาม อย่างไรก็ตามในจดหมายไม่ได้ระบุถึงข้อถกเถียงเรื่องรายละเอียดการจ่ายค่าชดเชย

เหตุการณ์นองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เกิดขึ้นในวันที่ 4 มิ.ย. 2532 เนื่องจากรัฐบาลจีนนำรถถังและกำลังทหารเข้าปราบและกวาดล้างกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งชุมนุมมาเป็นเวลาถึง 6 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุการณ์ ผู้เสียชีวิตในนั้นมีหลายร้อย หรืออาจถึงหลายพันคน ไม่เป็นที่แน่ชัด

พรรคคอมมิวนิสต์ตัดสินใจกวาดล้างผู้ชุมนุมประท้วง หลังจากผู้ประท้วงตราหน้าเหล่าผู้นำว่าเป็น “ผู้กบฎต่อจิตวิญญาณการปฏิวัติ” หมายถึงกบฎต่อแนวคิดของลัทธิคอมมิวนิสต์ ไม่จัดสรรความเป็นธรรมอันเท่าเทียมให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง

หลังจากการปราบปรามฯ คำพูดต่าง ๆ ก็ถูกทำให้อ่อนลง ไม่รุนแรงเหมือนเดิม แต่หากใครยังยกประเด็นเทียนอันเหมินขึ้นมาพูดจะถูกลงโทษ ไม่จำคุกก็ถูกข่มขู่ให้กลัว ยิ่งในโลกออนไลน์ยิ่งมีการบล็อกการค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์อย่างแข็งขัน

จดหมายฯ ชี้ว่า แรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังทำให้รัฐบาลจีนหันมาเริ่มต้นพูดถึงเรื่องนี้อีกนั้น ยังไม่แน่ชัด

อย่างไรก็ตาม ดำริเรื่องการจ่ายค่าชดเชยนี้ออกมาในช่วงที่มีการปราบปรามนักเคลื่อนไหวอย่างหนัก และในปีนี้จีนต้องการป้องกันการปฏิวัติมิให้เกิดเหตุการณ์เฉกเช่นที่เกิดขึ้นและสั่นคลอนเสถียรภาพทางการเมืองในโลกอาหรับมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม สำนักพิทักษ์สันติราษฎร์ประจำปักกิ่ง ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับจดหมายหรือรายงานข้อถกเถียงเรื่องการจ่ายค่าชดเชยฯ

กลุ่มเทียนอันเหมิน มาเธอร์ ได้รวบรวมเอกสารการสังหารประชาชนในเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ 203 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นนักเคลื่อนไหวที่ใช้สันติวิธีหรือไม่ก็เป็นพลเรือนทั่วไป