เอเอฟพี - จีนปรับขึ้นค่าไฟโรงงานอุตสาหกรรมในบางพื้นที่ เนื่องจากประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน สืบเนื่องมาจากความต้องการพลังงานที่สูงเกินและภัยแล้งที่หนักหนาสาหัส
สำนักข่าวซินหวาอ้างรายงานของคณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนวานนี้ (30 พ.ค.) ว่า ราคาค่าไฟฟ้าสำหรับโรงงานต่าง ๆ ปรับขึ้น 20 หยวน ต่อ 1,000 กิโลวัตต์/ชม. อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวไม่ได้ให้รายละเอียดว่า การปรับขึ้นค่าไฟฟ้านี้จะมีผลในภูมิภาคใดบ้าง หรือราคาที่ปรับขึ้นจะสูงอยู่ที่เท่าไร
แต่สำหรับประชาชนทั่วไปนั้น อัตราค่าไฟไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด
สื่อจีนเคยรายงานก่อนหน้านี้ ว่า ธุรกิจในแถบเมืองชายฝั่ง และในบางมณฑลลึกเข้าไปแถบภาคกลาง ต้องต่อสู้ดิ้นรนเมื่อเจอปัญหาการตัดไฟและไฟฟ้าดับถาวร นับตั้งแต่เดือนมี.ค. เป็นต้นมา สืบเนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้ามีมากเกินขณะที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำได้น้อยกว่าเดิม
ภัยแล้งที่กร่อนกินพื้นที่แถบใจกลางแผ่นดินใหญ่มาหลายเดือน ส่งผลให้ประชากรไม่มีน้ำดื่มที่สะอาดและเพียงพอในการบริโภค จีนพึ่งพิงพลังน้ำในการปั่นกระแสไฟฟ้าเป็นลำดับ 2 รองจากถ่านหิน เมื่อน้ำแห้งก็ไม่มีแรงปั่นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้มีพลังงานไฟฟ้าส่งจ่ายได้น้อย และชะงักงันในบางเวลา
ก่อนหน้านั้น สื่อทางการจีนรายงานว่า ในเดือนเม.ย. รัฐบาลได้ขึ้นราคาค่าไฟฟ้าสำหรับบริษัทต่าง ๆ ใน 16 มณฑล เพื่อกระตุ้นการผลิตกระแสไฟฟ้า ในช่วงเวลานั้นต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินก็เพิ่มขึ้นด้วย
แม้รัฐบาลจะไม่ประกาศขึ้นค่าไฟสำหรับชาวบ้านทั่วไป แต่ก็มีกระแสความกังวลว่าสินค้าอื่น ๆ จะขึ้นราคา สืบเนื่องมาจากโรงงานต้องมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น อาจทำให้ผู้บริโภคต้องทุกข์ระทมจากปัญหาเงินเฟ้อและราคาสินค้าพุ่งสูงได้
ดัชนีราคาหรือซีพีไอ ปรอทชี้วัดเงินเฟ้อของจีนสูง 5.3 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเม.ย.ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าลดลงจากเดือนมี.ค.ซึ่งอยู่ที่ 5.4 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ปี 2554 จีนตั้งเป้าให้เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
รัฐบาลจีนกังวลว่า ปัญหาเงินเฟ้อจะนำมาซึ่งความไม่สงบในประเทศ จึงได้รัวหมัดชุดงัดมาตรการต่าง ๆ มาควบคุมราคาสินค้า ตลอดจนห้ามการส่งออกน้ำมันดีเซล เพื่อให้มีเพียงพอในการอุปโภคภายในประเทศ