หวั่นสถานการณ์ประท้วงในมองโกเลีย บานปลายนองเลือด

รอยเตอร์, เอเอฟพี - สถานการณ์ประท้วงในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซึ่งผ่านมานาน 5 วันแล้ว ยังไม่มีท่าทีสงบง่าย ๆ โดยชาวมองโกเลีย ซึ่งโกรธแค้นการปกครองของจีนเตรียมเดินขบวนประท้วงอีกในสัปดาห์นี้ ด้านองค์กรนิรโทษกรรมสากลเรียกร้องรัฐบาลจีน หลีกเลี่ยงการใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรง หวั่นซ้ำรอยเหตุการณ์ในซินเจียง และทิเบต

การชุมนุมประท้วงต่อต้านการปกครองของจีนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของชนเชื้อสายมองโกลปะทุขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ (23 พ.ค.) จากการเสียชีวิตของคนเลี้ยงสัตว์ชาวมองโกลผู้หนึ่งเมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อนหน้า โดยถูกรถบรรทุก ซึ่งชนเชื้อสายฮั่นขับมาแล่นทับ ต่อมา ผู้ขับรถบรรทุกรายนี้ได้ถูกจับกุม และถูกตั้งข้อหา เพื่อฟ้องร้องดำเนินคดี จากการเปิดเผยของศูนย์ข้อมูลด้านสิทธิมนุษยชนแห่งมองโกเลียทางใต้ (the Southern Mongolian Human Rights Information Centre) ซึ่งมีที่ทำการอยู่ในสหรัฐฯ

เขตปกครองตนเองมองโกเลียในเป็นที่อยู่อาศัยของชนเชื้อสายมองโกลราว 6 ล้านคน ซึ่งมีวัฒนธรรมและภาษา ที่ผูกพันกับสาธารณรัฐมองโกเลีย ซึ่งอยู่ทางเหนือ การเสียชีวิตของคนเลี้ยงสัตว์ดังกล่าวได้โหมกระพือความรู้สึกต่อต้านการปกครองของจีน ที่อัดแน่นมานาน ให้ลุกฮือขึ้น โดยชาวมองโกลมองว่า พวกตนถูกจีนกดขี่ข่มเหงทั้งด้านการเมืองและวัฒนธรรม ตลอดจนถูกรุกล้ำทุ่งนาเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นวิถีการทำมาหากินตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่ครั้งปู่ย่าตายาของชาวมองโกล เพื่อให้ชนเชื่อสายฮั่น ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ในจีน เข้ามาทำเหมืองแร่ และขุดเจาะแหล่งพลังงาน

มีความวิตกกันว่าอาจเกิดเหตุรุนแรงนองเลือดขึ้น เนื่องจากชาวมองโกลเตรียมเดินขบวนประท้วงต่อในสัปดาห์นี้ โดยมีการปลุกระดมในหมู่ชาวมองโกลผ่านทางเว็บไซต์เครือข่ายสังคมต่าง ๆ

ในขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่า การใช้กำลังปราบปรามอย่างหนักเป็นวิธีเดียวที่จะควบคุมผู้ประท้วงได้ โดยขณะนี้ทางการจีนได้ส่งตำรวจเข้าตรึงกำลังตามสถาบันการศึกษาในเขต ที่อาจมีการรวมตัวของผู้ชุมนุมประท้วง เช่นที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติมองโกเลียในในเมืองตงเหลียว และมหาวิทยาลัยแห่งชาติเมืองฮูเหอเฮ่าเทอ

ขณะที่การติดต่อทางอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคนี้ทำได้ช้ามาก และห้องสนทนาใน Tencent ซึ่งเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมถูกปิดลงแล้ว

ด้านแคเทอรีน เบเบอร์ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกขององค์การนิรโทษกรรมสากลเรียกร้องให้ทางการจีนเคารพต่อเสรีภาพในการแสดงออก และการชุมนุม ตลอดจนหลีกเลี่ยงการใช้กำลังรุนแรงเกินความจำเป็นในการปราบปรามผู้ประท้วงเหมือนเช่นที่เคยปราบปรามการชุมนุมประท้วงในเขตปกครองตนเองทิเบต และเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียงเมื่อปี 2551 และ2552 ตามลำดับ ซึ่งเกิดการนองเลือดล้มตายของผู้คนจำนวนมาก

ทั้งนี้ ชาวมองโกลมากมายระบุว่า ชะตากรรมของพวกตนถูกบดบังด้วยเหตุการณ์ลุกฮือต่อต้านการปกครองของจีนในดินแดนทั้งสอง นอกจากนั้น หลายคนยังโกรธแค้น ที่นาย Hada นักเรียกร้องสิทธิมนุษยชน ที่โดดเด่นที่สุดของชาวมองโกล ได้ถูกตำรวจควบคุมตัวอีกครั้ง พร้อมกับภรรยาและบุตรชาย หลังจากเขาเพิ่งพ้นโทษจองจำในคุกอยู่นาน 15 ปีเมื่อเร็ว ๆ นี้