xs
xsm
sm
md
lg

เหมืองถ่านหิน.. ทำลายชีวิตและจิตใจคนมองโกล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวมองโกเลียผู้เลี้ยงสัตว์ รวมตัวเรียกร้องสันติภาพเสรีภาพเพื่อชาวมองโกล ในเมือง  Xilinhot  (ภาพเอเอฟพี)
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ชาวมองโกเลียผู้อาศัยอาชีพปศุสัตว์เลี้ยงชีพ ตั้งรกรากทำมาหากินอยู่บนผืนดินอันอุดมในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ชี้ว่า พวกเขากำลังถูกทำให้เป็นพวกชายขอบ เนื่องจากรัฐบาลพยายามทำลายพื้นที่ทุ่งหญ้าเพื่อทุ่มสร้างเหมืองถ่านหิน

ชาวบ้านผู้เคยทำอาชีพเลี้ยงสัตว์คนหนึ่งเผยว่า การประท้วงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดจากการเสียชีวิตของเมอร์เกน ผู้ทำการปศุสัตว์คนหนึ่ง ที่พยายามสกัดกั้นกองคาราวานรถบรรทุกถ่านหินในพื้นที่เมือง Xilingol เมื่อเดือนที่ผ่านมา การเสียชีวิตของเขา เป็นเหตุให้เกิดกระแสความไม่พอใจไปทั่ว ทำให้ชาวมองโกเลียออกมาประท้วงเป็นเวลานานเพื่อกดดันรัฐบาล

ชาวบ้านผู้นี้เผยว่า ชาวมองโกเลียอยากแสดงความโกรธเกรี้ยวให้รัฐบาลได้ประจักษ์มานานแล้ว แต่เขายืนกรานว่า การประท้วงไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นชาติพันธุ์

ชายไม่เปิดเผยนามผู้นี้ชี้ว่า “การทำเหมืองถ่านหินได้ผลประโยชน์มหาศาล แต่ความอยู่รอดของชาวบ้านที่ทำอาชีพเลี้ยงสัตว์ ที่ต้องฝากชีวิตไว้กับทุ่งหญ้ากำลังถูกคุกคาม”

ยาลาไทหู ผู้เลี้ยงสัตว์อีกคนชี้ว่า สภาพทุ่งหญ้าค่อย ๆ เสื่อมทรามแย่ลง ๆ เป็นเวลา 2 ปีแล้ว เหมืองถ่านหินทำให้เกิดมลภาวะและพายุทราย ทำให้การเลี้ยงสัตว์ที่ต้องอาศัยทุ่งหญ้าย่ำแย่ไม่ได้ผลเท่าเดิมอีก

ทางการจีนได้วาดภาพความเจริญรุ่งเรืองในการวางโครงการพัฒนาภูมิภาคนี้ โดยกำหนดให้การทำเหมืองถ่านหินเป็นหมุดหมายสำคัญของการพัฒนา ในเมือง Xilingol การผลิตถ่านหินเพิ่มปริมาณขึ้นร้อยละ 49.2 เมื่อปีที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าจะสูงถึง 200 ล้านตันต่อปี ในปี 2558

อย่างไรก็ตามชาวมองโกเลีย ชี้ว่า ชาวบ้านหลายคนไม่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาดังกล่าว “สิ่งที่ชาวบ้านเห็นคือทุ่งหญ้าถูกทำลาย หากปราศจากทุ่งหญ้าชาวบ้านก็อยู่ไม่ได้ พวกเราตกเป็นเหยื่อคล้าย ๆ กับผู้ที่ถูกบังคับให้รื้อถอนบ้านแล้วไล่ที่ ดังนั้นจึงต้องประท้วงเพื่อให้เสียงของเราเป็นที่รับฟังมากขึ้น”

ศูนย์ข่าวจีนรายงานก่อนหน้านี้ว่า ผลผลิตจากเมือง Xilingol มีเพียงครึ่งเดียว นับแต่ทศวรรษ 1970 ขณะที่สำนักข่าวอิโคโนมิกส์ อินฟอร์เมชั่น เดลี ชี้ว่า พื้นที่ร้อยละ 2 ของทุ่งหญ้าฮูหลุนบุยร์ ในแถบตะวันออกเฉียงเหนือของมองโกเลียใน ถูกทะเลทรายกลืนกินไปเรียบร้อยแล้ว

“ชาวมองโกเลีย มีจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งภูมิภาค (ที่มีทั้งหมด 24 ล้านคน) พวกเขามักจะสูญเสียประโยชน์ในการต่อสู้กับการทำเหมืองเสมอ และศาลจีนก็มักจะไม่รับฟังคำฟ้องร้องที่มาจากชาวบ้านผู้เลี้ยงสัตว์ที่ยื่นฟ้องเรื่องการใช้พื้นที่ทุ่งหญ้าไม่เหมาะสม” ชาวปศุสัตว์คนหนึ่งกล่าว

ทั้งยาลาไทหูและชายปศุสัตว์ผู้ให้สัมภาษณ์คนนี้ เห็นพ้องว่า “การประท้วงไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ระหว่างฮั่นกับมองโกล หากใครคิดว่าเป็นเรื่องชาติพันธุ์นั้นผิดถนัด การประท้วงมิอาจเชื่อมโยงไปสู่สัมพันธภาพระหว่างเราและชาวฮั่นได้”

“เราไม่ได้มีอคติกับชาวฮั่นหรือต้องการจะให้พวกเขาออกไปจากพื้นที่ เราแค่ต้องการปกป้องสิทธิเพื่อความอยู่รอดของพวกเรา”

ศูนย์สิทธิมนุษยชนแห่งมองโกเลีย (ของสหรัฐฯ) ชี้ เจ้าหน้าที่ทั้งภูมิภาคต่างกระตือรือร้นติดตามสถานการณ์ หลังจากคำพูดของชายเลี้ยงสัตว์ผู้เสียชีวิตได้ไปกระตุ้นให้เกิดการประท้วง อย่างไรก็ตามวานนี้ไม่มีรายงานการประท้วง แต่นักศึกษาในเมือง Hohhot เมืองเอกของภูมิภาค เขวี้ยงตำราภาษาจีนออกมาจากหอพัก

ตำรวจได้เข้าควบคุมพื้นที่ใจกลางเมือง Xilinhot และนักศึกษาก็ถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัย

ก่อนหน้านั้นรัฐบาลจีนเคยเสนอความช่วยเหลือให้กับชาวมองโกเลีย แต่ชาวบ้านบางคนก็บอกว่า “ไม่เคยได้รับอะไรจากรัฐบาลเลย”
ตำรวจกักบริเวณผู้ประท้วงในเมือง Hohhot มองโกเลียใน ซึ่งมีผู้คนประมาณ 100 คนออกมารวมตัวในเมืองเมื่อวันจันทร์ 30 พ.ค. (ภาพเดอะนิวยอร์กไทมส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น