เอเยนซี - สื่อจีนรายงาน แผนการสร้างสวนสนุก เฮลโลคิตตี้ แมวไร้ปากที่โด่งดังที่สุดตัวหนึ่งของโลก โดยจะสร้างที่มณฑลเจ้อเจียง นับเป็นสวนสนุกคิตตีแห่งแรกนอกเกาะญี่ปุ่น
บริษัท ซานริโอ ของญี่ปุ่นได้แถลงวันที่ 12 พ.ค. ว่าได้ร่วมทุนกับซั่งไห่อินไซต์ โฮลดิ้งส์กรุ๊ปเพื่อสร้าง สวนสนุกเฮลโลคิตตี้ ธีมปาร์กแห่งแรก นอกเกาะญี่ปุ่น มูลค่า 215 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเปิดให้บริการในปี 2557
รายงานข่าวกล่าวว่า สวนสนุกแห่งนี้ จะแบ่งเป็นโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Tictac castle, Kitty House, Wisdom tree, ฯลฯ ตลอดไปจนถึงร้านค้า ร้านอาหาร ต่างๆ
เฮลโลคิตตี (Hello Kitty) เป็นตัวการ์ตูนลิขสิทธิ์ของบริษัทซานริโอ ประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเล่นว่า "คิตตีจัง" ลักษณะเป็นลูกแมวเพศเมียสีขาว ติดโบว์สีแดงที่หูข้างซ้าย โดยนักออกแบบคนแรกที่เป็นผู้สร้างตัวเฮลโลคิตตี คือ ยูโกะ ชิมิซึ เมื่อ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1974 (พ.ศ.2517) ปัจจุบันกลายเป็นสินค้าระดับสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมใหม่ของคนหนุ่มสาว
กระแสความฮิตของแมวไม่มีปากตัวนี้ เริ่มเข้ามาสร้างความนิยมในจีนปี พ.ศ. 2547 และติดตลาดอยู่ในหัวใจน่ารักของวัยรุ่นจีนอย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ความดังของเฮลโลคิตตี ยังสามารถเปรียบเทียบเชื่อมโยงไปในมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนและญี่ปุ่นได้ไม่น้อยไปกว่าแพนด้าของจีน โดยแพนด้าจะมีอิทธิพลในทางการเมือง แต่คิตตี้ มีมูลค่าเชิงเศรษฐกิจมหาศาล
ปัจจุบันนี้ มีสินค้าของญี่ปุ่นไม่น้อยที่สามารถครองใจชาวจีนได้ ตั้งแต่โซนี่ ไปจนถึงโตโยต้า อย่างไรก็ตามสินค้าต่างๆ ของญี่ปุ่น ปัจจับัน ก็ล้วนแล้วแต่มีฐานผลิตในจีนทั้งสิ้น ดังนั้นการผลิตสินค้าของเฮลโลคิตตี้ ก็เป็นการลงทุนธุรกิจที่การผลิตอยู่ในจีนนั่นเอง ซึ่งครอบคลุมสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันทั้งหมด ตั้งแต่ เครื่องเขียน เสื้อผ้า เครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์
เมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีจีน เวิน จยาเป่า ไปเยือนญี่ปุ่น เดือนมิถุนายน ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสพบปะกับประชาชนญี่ปุ่น เขาได้รับตุ๊กตาคิตตี ใส่ชุดกิโมโนเป็นของกำนัลถึงมิตรภาพระหว่างประเทศทีเดียว
รายงานข่าวยังกล่าวถึงความนิยมสวนสนุกในจีนว่า สวนสนุกเฮลโลคิตตี้นี้ ตั้งอยู่ในเมืองอันจี๋ มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากนครเซี่ยงไฮ้ เป็นสวนสนุกแห่งใหม่อีกแห่ง ที่ทะยอยก่อสร้างในจีน หลังจากสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ที่เซี่ยงไฮ้ กับสวนสนุกสเมิร์ฟ ของเบลเยี่ยมในเมืองเฉิงตู ได้เริ่มไปแล้ว แต่กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า จีนจะเป็น "บ้านใหม่" อยู่สบายของบรรดากิจการต่างชาติอื่นๆ ทุกรายไป เพราะตัวอย่างของแมทเทลอิงก์ เจ้าของ "บาร์บี้" ยังต้องเก็บเสื้อผ้า กลับบ้าน ไปเมื่อต้นปีนี้ เพราะไม่สามารถครองใจผู้บริโภคจีนได้ แต่ก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าที่คนจีนรักบาร์บี้น้อย เพราะเทใจให้กับ "เฮลโล คิตตี้" ไปนั่นเอง