ไชน่า เดลี - คนขับแท็กซี่ในกรุงปักกิ่งมักจะชวนคุยได้แทบจะทุกเรื่อง แต่ทว่ากลับมีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่พวกเขาเลือกที่จะไม่คุย นั่นก็คือเรื่อง “เซ็กซ์”
ฟั่ง จวินจวิน คนขับแท็กซี่ วัย 42 ปี เผยว่า “เมื่อมีคนพูดถึงสุขภาพทางเพศของผม ผมจะเงียบทันที เพราะผมค่อนข้างเป็นคนหัวเก่าที่ไม่ชอบพูดถึงเรื่องพรรค์นี้”
สมาคมการวางแผนครอบครัวจีน หรือ ซีเอฟพีเอ ซึ่งจัดโครงการรณรงค์ความรู้เรื่องอนามัยการเจริญพันธุ์(reproductive health)และสุขภาพทางเพศ(sexual health) ให้กับบรรดาคนขับแท็กซี่ในกรุงปักกิ่ง ต้องประสบความยากลำบากในการดำเนินงานดังกล่าว ด้วยว่า เรื่องเซ็กซ์ เป็นเรื่องต้องห้ามในประเพณี อีกทั้งเหล่าผู้ขับแท็กซี่ก็ไม่ค่อยมีเวลาจะเข้าร่วมโครงการฯ
อุปสรรคความละเอียดอ่อนในวัฒนธรรมที่ผู้รณรงค์เรื่องเพศต้องประสบ อาทิ ซีเอฟพีเอ ต้องการร่วมมือกับสถานีวิทยุกระจายเสียงกรุงปักกิ่ง เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ แต่ทว่าโปรดิวเซอร์ของสถานีดังกล่าว เผยว่า เรื่องต่ำกว่าเอวเหล่านี้ ไม่สามารถเผยแพร่ออกอากาศได้
อย่างไรก็ตาม ซีเอฟพีเอก็ยังพยายามดำเนินโครงการฯ จนทำให้บรรดาผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่บางส่วน ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องดังกล่าวได้ โดยโครงการนี้เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 5 เดือน
โครงการดังกล่าว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหพันธ์วางแผนครอบครัวระหว่างประเทศ (International Planned Parenthood Federation - IPPF) จะจัดอบรมความรู้ในด้านต่างๆให้กับเหล่าคนขับรถแท็กซี่ที่เข้าร่วมทั้งหมดราว 350 คน ได้แก่ การอบรมวางแผนครอบครัวแบบตัวต่อตัว การอบรมด้านสุขภาพทางเพศ และอบรมด้านการป้องกันการแพร่เชื้อของโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ นอกจากนี้ ยังให้บริการตรวจเช็คสภาพร่างกายฟรี
ผลสำรวจจากกรณีศึกษาคนขับรถแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการฯ พบว่า มีผู้ที่ประสบปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศราว 56.7 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ มีผู้ที่รู้วิธีป้องกันการแพร่เชื้อเอดส์(HIV) เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ และมีผู้ที่เป็นโรคต่อมลูกหมากอักเสบราว 10 เปอร์เซ็นต์
ฉี อี้ว์หลิง เจ้าหน้าที่โครงการฯ อธิบายว่า “การควบคุมการเกิดและการวางแผนครอบครัว มีความสำคัญต่อเพศหญิง สำหรับในประเทศจีน มันมีความเข้าใจที่ผิดๆว่า เพศหญิงเป็นผู้แบกรับความรับผิดชอบในด้านอนามัยการเจริญพันธุ์มากกว่า มาตรการการคุมกำเนิดส่วนใหญ่ จึงกำหนดขึ้นเพื่อผู้หญิงเป็นหลัก
“อย่างไรก็ตาม เพศชายส่วนใหญ่จะแสดงบทบาทพฤติกรรมทางเพศเชิงรุก อันส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์และด้านอนามัยเจริญพันธุ์ของเพศหญิง
“การที่เพศชายให้ความสนใจด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ไม่เพียงแต่เป็นผลดีต่อเพศชาย อีกทั้งเป็นผลดีต่อสุขภาพของเพศหญิงและเด็ก นอกจากนี้ ยังเป็นการพัฒนาคุณภาพของประชากรจีน”
แต่ทำไมต้องเฉพาะเจาะจงที่คนขับแท็กซี่? ฉี ชี้ว่า เป็นเพราะอาชีพที่ต้องนั่งอยู่แต่ในรถนานหลายชั่วโมง ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงสูงที่จะประสบปัญหาด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ในขณะเดียวกัน เธอกล่าวว่า คนขับแท็กซี่จำนวนมาก ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องอนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาพทางเพศ
เหอ หลี่จวิน แพทย์ศูนย์ผ่าตัดอู่ เจี๋ยผิง ในเครือของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เผยว่า “ปัญหาโดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับระบบอนามัยเจริญพันธุ์ของบรรดาคนขับแท็กซี่ ก็คือ การอักเสบของต่อมลูกหมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ขับแท็กซี่ส่วนใหญ่ มักไม่ค่อยใส่ใจสุขภาพของตน”
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าว ยังกำหนดให้บนรถแท็กซี่ต้องมีใบปลิวความรู้เกี่ยวกับอนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาพทางเพศ สำหรับแจกให้กับผู้โดยสาร
สำหรับแผนการแรกเริ่มของโครงการฯ ได้กำหนดให้มีการแจกถุงยางอนามัยฟรีให้แก่ผู้โดยสารรถแท็กซี่ แต่ทว่า บรรดาผู้ร่วมโครงการไม่เห็นด้วย ขณะเดียวกัน ซีเอฟพีเอ ก็ต้องการให้เหล่าคนขับแท็กซี่ตระหนักถึงคุณค่าของถุงยางอนามัยเฉกเช่นเข็มขัดนิรภัย
หลี่ หง เลขาธิการของสมาคมวางแผนครอบครัวเขตสือจิ่งซาน แห่งเทศบาลนครปักกิ่ง ชี้ว่า “แผนการแจกถุงยางอนามัยในรถแท็กซี่ มันขัดแย้งกับธรรมเนียมจีน ประชาชนทั่วไปค่อนข้างเป็นพวกอนุรักษ์นิยมที่ไม่ค่อยกล้าพูดถึงเรื่องเซ็กส์ ขณะเดียวกัน บริษัทแท็กซี่ต่างๆ ก็คงไม่ต้องการให้มีถุงยางอยู่ในรถของตน”
แม้โครงการซีเอฟพีเอ เรียกร้องให้บรรดาชายจีนที่ขับแท็กซี่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ช่วยกันเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับอนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาพทางเพศ ให้กับทั้งผู้ขับแท็กซี่ด้วยกันและผู้โดยสาร แต่บรรดาคนขับแท็กซี่จำนวนมาก ไม่เห็นด้วยกับการนำเรื่องดังกล่าวมาเป็นประเด็นพูดคุย
ทั้งนี้ อนามัยการเจริญพันธุ์ (Reproductive Health) หมายถึง สภาวะที่ระบบอวัยวะสืบพันธุ์สามารถทำหน้าที่ด้านเพศและด้านเจริญพันธุ์ หรือการมีบุตรได้ครบถ้วนสมบูรณ์อย่างปลอดภัยและนำความผาสุกมาสู่ชีวิต และช่วยเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายทั้งในส่วนบุคคลและสังคม
