ศาลจีนลงดาบโทษประหาร “คดีนักเปียโนแทงแม่ลูกอ่อนตาย”

เอเอฟพี - ศาลจีนได้ตัดสินประหารชีวิต นายเหยา เจี้ยนซิน นักศึกษาเปียโนวัย 21 ปี ที่ก่อเหตุฆาตกรรมหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บ หลังจากถูกเขาขับรถชน นับเป็นคดีอาญาที่จุดชนวนการโต้เถียงเรื่องพฤติกรรมของ "เศรษฐีรุ่นที่ 2" ไปทั่วประเทศจีน

สืบเนื่องจาก นายเหยา เจี้ยนซิน นักศึกษาเปียโนวัย 21 ปี แห่งมหาวิทยาลัยดนตรีซีอาน ได้ขับรถชนนางจาง เหมี่ยว พนักงานโรงอาหารวัย 26 ปี และเป็นแม่ของลูกชายวัย 2 ขวบ ขณะที่เธอกำลังขี่จักรยานเมื่อช่วงกลางดึกในคืนวันที่ 20 ต.ค.ปีที่ผ่านมา(2553) ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย จากนั้น ทั้งคู่ก็ทะเลาะกัน เนื่องจากเจรจาตกลงกันไม่ได้ และขณะที่ นายเหยาเห็นว่า นางเหมี่ยวพยายามดูป้ายทะเบียนรถของตน เขาจึงตัดสินใจใช้มีดแทงกระหน่ำถึง 8 ครั้ง จนนางเหมี่ยว เสียชีวิต ก่อนหลบหนีไปและถูกตามจับได้ในภายหลัง

ล่าสุดสำนักข่าวซินหวา รายงาน(22 เม.ย.) ว่า ศาลเมืองซีอาน ได้ตัดสินโทษประหารชีวิตนาย เหยา เจี้ยนซิน หลังจากที่ เขาได้ให้การยอมรับสารภาพว่า เจตนาฆ่านางจาง เหมี่ยว เนื่องจากกลัวว่า จะไม่สามารถเจรจาตกลงกับ “หญิงชาวบ้าน” ผู้นี้ได้

คำพิพากษาของศาล ระบุว่า “การกระทำของนายเหยา โหดเหี้ยมและเลวทรามอย่างที่สุด” พร้อมกับตัดสินโทษประหารชีวิต แม้เหยาได้ยอมรับสารภาพผิดและสำนึกผิดต่อการกระทำของตนแล้วก็ตาม

นอกจากนี้ ศาลได้สั่งให้นายเหยา จ่ายชดเชยให้กับครอบครัวของนางจางเป็นเงิน 45,000 หยวน (ราว 202,000 บาท)

สำหรับคดีอาชญากรรมนี้ เป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวางในประเด็นความประพฤติของ "เศรษฐีรุ่นที่ 2" ของจีน ซึ่งหมายถึงลูกเจ้าสัวฐานะร่ำรวยที่ชอบเรียกร้องสิทธิพิเศษต่างๆ และมักมีพฤติกรรมที่ไร้ศีลธรรม

เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์จีนได้สัมภาษณ์นายเหยา ซึ่งได้กล่าวขอโทษพลางร้องไห้ฟูมฟายต่อครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิต ซึ่งกระแสชาวเน็ตจีนต่างไม่พอใจต่อการพยายามสร้างภาพความน่าสงสารของจำเลย

แถลงการณ์บนเว็บไซต์ระบุว่า มหาวิทยาลัยดนตรีซีอานเห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล และให้คำมั่นว่าจะพัฒนาการศึกษาด้านกฎหมายให้กับนักศึกษา

รายงานข่าวระบุว่า ครอบครัวของนายเหยา ไม่ได้ร่ำรวยมากนัก แต่ทั้งพ่อและแม่ของนายเหยา ทำงานให้กับบริษัทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของจีน ซึ่งเฟื่องฟูอย่างมาก เนื่องจาก จีนได้เร่งปฏิรูปด้านการทหารในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

สำหรับกระแสตอบรับคำตัดสินคดีนายเหยา แตกออกเป็น 2 ฝ่าย โดยมีชาวเน็ตส่วนหนึ่งคัดค้านคำตัดสินฯ ต้องการให้ไว้ชีวิตนายเหยา ขณะที่ อีกส่วนหนึ่งเห็นด้วยกับคำตัดสิน

ชาวเน็ตจีนคนหนึ่งโพสต์บนเว็บไซต์ซีน่าว่า “หากคดีนี้ไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสังคม คำพิพากษาคงไม่ออกมาในรูปนี้แน่นอน”

ขณะที่ บล็อกเกอร์อีกคนหนึ่ง เผยว่า “เราไม่ควรเปลืองกระสุนประหารชีวิตนายเหยา เขาสมควรถูกแทงอย่างช้าๆ หลายๆครั้ง เป็นเวลาติดต่อกัน 3 วัน 3 คืน”

อนึ่ง คดีของนายเหยา ยังคล้ายคลึงกับคดีอื้อฉาวข้ามปี “พ่อข้าชื่อ หลี่ กัง” โดยในคดีนี้ นาย หลี่ ฉีหมิง (ซึ่งขณะนี้ถูกศาลตัดสินจำคุก 6 ปี) ลูกของนาย หลี่ กัง นายตำรวจระดับสูงของมณฑลเหอเป่ย ได้ขับรถชนนักศึกษา 2 คน ที่กำลังเล่นโรลเลอร์สเก็ตภายในมหาวิทยาลัยเหอเป่ย เป็นเหตุให้มีนักศึกษาเสียชีวิต 1 คน ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บสาหัส

หลังจากที่ขับรถชนแล้ว หลี่ ฉีหมิง ยังคงขับรถต่อไป จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกลุ่มนักศึกษาที่เห็นเหตุการณ์ต้องเข้ามาขวาง และบอกให้เขารับผิดชอบ แต่เขากลับตะโกนท้าทายให้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับเขาได้ ด้วยประโยคที่ว่า “ไปเลย เชิญไปฟ้องร้องได้เลย "พ่อข้า คือหลี่กัง"” และนับจากนั้นมา ประโยค "พ่อข้า คือหลี่กัง" ก็ฉาวโฉ่ไปทั่วประเทศ