เอเอฟพี - กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนเผยเมื่อวันศุกร์ (15 เม.ย.) ว่า จีนได้กักตัวบรรดาผู้ไม่เห็นด้วยและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองไปแล้วอย่างน้อย 54 คน ในช่วงที่ดำเนินมาตรการลงโทษขั้นหนักกับนักเรียกร้องฯ หลังจากทางการจีนจับตัวไอ้ เว่ยเว่ย ศิลปินนักวิจารณ์สังคมไปก่อนหน้านี้
ศูนย์สิทธิมนุษยชนจีนประจำฮ่องกง เผยว่า “นักเคลื่อนไหวคนล่าสุดที่ถูกทางการจับตัวไปได้แก่ หนี อี้ว์หลาน นักเรียกร้องสิทธิ์ด้านที่อยู่อาศัยผู้นั่งรถเข็น พร้อมด้วยสามีของเธอ นายต่ง จี้ฉิน”
หนีถูกกักตัวเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ในกรุงปักกิ่งข้อหาสร้างความไม่สงบ ขณะที่ต่ง สามีของหนีก็ถูกตำรวจจับกุมตัวไปด้วย ฝ่ายตำรวจปักกิ่งปฏิเสธที่จะเผยข้อมูลเกี่ยวกับคดีของทั้งสอง หลังจากที่เอเอฟพีติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูล
จีนได้ออกมาตรการปราบปรามและลงโทษผู้ที่วิจารณ์รัฐบาลจีนอย่างชัดเจนเพื่อระงับความเคลื่อนไหวทางการเมืองไว้ มิให้เกิดการปฏิวัติเยี่ยง “การปฏิวัติมะลิ” ที่สั่นคลอนการเมืองในโลกอาหรับมาแล้ว
หลังจากเกิดเหตุความไม่สงบในโลกอาหรับ ในจีนเองก็มีการเรียกร้องทางโลกออนไลน์ให้ชาวจีนออกมาชุมนุมในเมืองใหญ่ทุกวันอาทิตย์ โดยทางการจีนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาป้องกันเหตุดังกล่าวอย่างหนัก จนไม่มีการรายงานว่ามีการชุมนุมใด ๆ ที่เกิดปัญหานองเลือด
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ตำรวจได้ควบคุมตัวไอ้ เว่ยเว่ย ศิลปินผู้วิจารณ์รัฐบาลจีนอันเลื่องชื่อ ด้วยเหตุกรณีที่เขาเข้าไปพัวพันในการรณรงค์ประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองและวิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างหนักหน่วง
รัฐบาลจีนชี้ว่า ไอ้ เว่ยเว่ยถูกกักตัวในข้อหา “อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ” แต่ไม่ได้แสดงหลักฐาน รายละเอียด กระบวนการ สำหรับข้อกล่าวหานั้นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ฮ่องกง เหวินฮุ่ยเป้า ที่เป็นของรัฐบาลจีนก็ได้รายงานเมื่อวันพฤหัส (14 เม.ย.) ว่า ตำรวจมีหลักฐานที่แน่นหนาว่า ไอ้ เว่ยเว่ย หลบเลี่ยงการจ่ายภาษี และขณะนี้กำลังให้การสารภาพ
แหล่งข่าวไม่ระบุชื่อเผยว่า จำนวนภาษีที่ไอ้ หลบเลี่ยงนั้นค่อนข้างมาก มีพยานหลักฐาน เอกสารประกอบอย่างเพียบพร้อม โดยระบุด้วยว่า ไอ้ถูกตั้งข้อสงสัยว่า มีภรรยาทีเดียวพร้อมกัน 2 คน และเผยแพร่สื่อลามกอนาจารทางอินเทอร์เน็ต
ศูนย์สิทธิมนุษยชนฯ เผยว่า จีนได้ตัดสินและคุมขังนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านรัฐบาลอย่างน้อย 38 คนแล้ว โดยที่อีก 16 คน หายตัวไปหลังถูกตำรวจจับกุม
การจับกุมตัวไอ้ เว่ยเว่ย นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากโลกตะวันตก ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย เรียกร้องให้ปล่อยตัว ไอ้ เว่ยเว่ย ทันที ขณะที่จีนก็ตอบโต้ว่า ประเทศเหล่านั้น (โดยเฉพาะสหรัฐฯ) ไม่ควรแทรกแซงการเมืองภายในของจีน และควรหันกลับไปดูสิทธิมนุษยชนภายในประเทศตนเองว่าฟอนเฟะเสียยิ่งกว่า