ไชน่าเดลี - จีนเปิดโอกาสบริษัทต่างชาติเข้าลงทุนโดยตรงในอุตสาหกรรมบางประเภท ซึ่งเคยกีดกัน ภายใต้แนวนโยบายอุตสาหกรรมการลงทุนโดยตรง (Foreign Direct Investment Industry Guidelines) ฉบับใหม่
อุตสาหรรม ที่เปิดโอกาสให้แก่ต่างชาติ อาทิ อุตสาหกรรมไฮเทค, พลังงานสะอาด, เทคโนโลยีด้านอวกาศและการบิน,การผลิตสินค้าสำหรับตลาดบน และอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ทันสมัย
แนวนโยบายฉบับใหม่นี้จะนำมาใช้แทนฉบับเมื่อปี 2550 โดยนายหวัง จื่อเล่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเกี่ยวกับบริษัทข้ามชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่า แนวนโยบายฉบับใหม่เป็นการให้คำมั่นของรัฐบาลจีน ที่จะเปิดกว้างทั้งในภาคการผลิตสินค้าระดับบน และภาคบริการสมัยใหม่ต่าง ๆ ซึ่งยังสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี (2554-2558) ฉบับที่ 12 ของจีน ที่มุ่งสร้างจีนไปสู่การเป็นสังคมแห่งนวัตกรรม และปรับปรุงสวัสดิการสังคม
รัฐบาลจีนได้จัดทำ แนวนโยบายฉบับใหม่ ภายหลังจากบริษัทต่างชาติบางรายออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับบรรยากาศการลงทุนในจีนในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว นอกจากนั้น ยังเกิดขึ้นภายหลังจากที่จีนเคยประกาศเกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงของต่างชาติ หรือ FDI เมื่อเดือนเม.ย. ปีก่อน ซึ่งเป็นการส่งเสริมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมไฮเทค, พลังงานหมุนเวียน และภาคบริการ โดยมุ่งการลงทุนในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตกเป็นสำคัญ
นายหลี่ เสี่ยวกัง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการลงทุนต่างชาติของสถาบันการศึกษารัฐศาสตร์แห่งเซี่ยงไฮ้มองว่า แนวนโยบายฉบับใหม่นี้นับเป็นข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมท้องถิ่นและบริษัทต่างชาติ โดยยิ่งจีนเปิดกว้างสู่โลกภายนอก จีนก็จะยิ่งได้รับประโยชน์มากขึ้น และเพิ่มการแข่งขันของอุตสาหกรรมในท้องถิ่น
แนวนโยบายฉบับใหม่นี้ยังอยู่ระหว่างการจัดทำ นอกจากนั้นมีการนำเสนอเพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนเป็นเวลา 1 เดือน โดยเริ่มขึ้นในเดือนเม.ย. คาดว่าจะประกาศใช้ได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจีนมีการพิมพ์เผยแพร่แนวนโยบายฉบับแรกเมื่อปี 2538 และแก้ไขเปลี่ยนแปลงทุก 4 ปี แนวนโยบายฉบับล่าสุดนี้นับเป็นฉบับที่ 5
อย่างไรก็ตาม แนวนโยบายฉบับใหม่ยังคงห้ามการลงทุนโดยตรงของต่างชาติในบางภาค เช่นภาคพลังงาน ซึ่งรวมทั้งน้ำมันดิบ กระบวนการนำเชื้อเพลิงนิวเคลียร์หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ และการผลิตเคมีภัณฑ์ ตลอดจนอุตสาหกรรมโลหะบางประเภท , แหล่งทรัพยากรทางทะเล รวมทั้งการผลิตและการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์พืช การผลิตและการแปรรูปสินค้าเกษตรกรรมก็ถูกห้ามด้วยเช่นกัน