เขตเศรษฐกิจพิเศษเฉียนไห่ผลักดันกฎหมายแจ้งรายได้

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเฉียนไห่ในนครเซินเจิ้นเตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ผลักดันร่างกฎหมายกำหนดให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงต้องแจ้งรายได้และประวัติด้านการเงิน ขณะที่ในปัจจุบัน มีเพียงไม่กี่เมืองบนแดนมังกร ที่มีกฎหมายดังกล่าว

ในร่างกฎหมาย ซึ่งเตรียมผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากสภาผู้แทนประชาชนประจำนครเซินเจิ้นในเดือนหน้ากำหนดให้คณะกรรมการทั้ง 11 คนของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเฉียนไห่ ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการจากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง 2 คน ,ผู้อำนวยการของสำนักงานบริหารแห่งเฉียนไห่ , คณะผู้บริหารระดับสูง, ผู้ตรวจการและผู้ช่วยผู้ตรวจการ ต้องแจ้งรายได้ต่อสาธารณชน และความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ หรือผลประโยชน์ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในการบริหารและวางนโยบายสำหรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้

เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเฉียนไห่เป็นข้อตกลงความร่วมมือระหว่างมณฑลก่วงตงกับเขตปกครองพิเศษฮ่องกง โดยคณะผู้บริหารปกครองของนครเซินเจิ้นตั้งเป้าหมายผลักดันให้เป็น “ แมนฮัตตันแห่งเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจปากแม่น้ำจูเจียง” เพื่อเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค

เฉียนไห่ได้รับอำนาจอิสระในการปกครองตนเองแบบเดียวกับฮ่องกง ดังนั้น การแจ้งรายได้และผลประโยชน์ต่าง ๆ จึงไม่มีผลบังคับใช้สำหรับเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์คนอื่น ๆ ในนครเซินเจิ้น

อย่างไรก็ตาม หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการลงมติเห็นชอบก็จะกลายเป็นกฎหมายฉบับแรกบนแผ่นดินใหญ่ ที่กำหนดให้มีการแจ้งรายได้และผลประโยชน์

ด้านศาสตราจารย์ Tsao King-Kwun จากมหาวิทยาลัยฮ่องกงแห่งจีน ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการปฏิรูปข้าราชการและการบริหารปกครองระบุว่า การแจ้งรายได้และผลประโยชน์นี้แตกต่างจากการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเฉียนไห่ไม่จำเป็นต้องแจ้งแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีชื่อฉาวกระฉ่อนเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น นักวิชาการตำหนิว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นที่แพร่ระบาดในจีนมีสาเหตุจากการขาดระบบปราบปรามการทุจริต ที่มีประสิทธิภาพ โดยเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีหลากหลายช่องทางในการยักยอกเงินของรัฐ และรับสินบน

จากผลสำรวจเมื่อปีที่แล้วของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติในกรุงปักกิ่งประเมินว่า คนรวยในจีนอาจซุกซ่อนรายได้ไม่สุจริตสูงถึง 9.3 ล้านล้านหยวน หรือเทียบเท่ากับ 1 ใน 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของจีนทีเดียว จากการสัมภาษณ์ครอบครัว 4,000 รายใน 64 เมือง โดยราวร้อยละ 5 ของผู้ถูกสัมภาษณ์เป็นเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ในระดับต่าง ๆ

ปัจจุบัน มีคณะผู้บริหารปกครองระดับเมือง, อำเภอ และจังหวัดอย่างน้อย 7 แห่ง ที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2551 เช่นเขตผู่ตงในนครเซี่ยงไฮ้, เมืองหลิวหยาง และอำเภอเซียงเซียงในมณฑลหูหนันเป็นต้น