เอเยนซี - เวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีจีนแถลงเมื่อวันจันทร์ (21 มี.ค.) ว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจีน ระยะ 5 ปี ฉบับที่ 12 จะสร้างความหวังและความมั่นใจให้แก่จีนและประเทศทั้งหลายด้วย
นายกเวินฯ แถลงให้คณะผู้แทนต่างชาติ 70 คนฟัง ในการประชุมเรื่องการพัฒนาของจีนประจำปี 2554 ณ มหาศาลาประชาคมจีนว่า “นโยบายเปิดประเทศของจีนจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แถมจีนยังทำให้เข้มแข็งมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนจากต่างประเทศ การพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ฯ
สภาฯ จีนอนุมัติผ่านร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯ ฉบับที่ 12 เมื่อต้นเดือนมี.ค. ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนประจำปี 2554 โดยมีเป้าหมายให้จีน ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจลำดับสองของโลก ให้ดำเนินเศรษฐกิจไปในแนวทางที่เป็นธรรมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นในอีก 5 ปีนับจากนี้
สืบเนื่องจากแผนดังกล่าวฯ จีนมีเป้าหมายในการลดการบริโภคพลังงานลง 16 เปอร์เซ็นต์ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 17 เปอร์เซ็นต์
“การพัฒนาของจีนแยกจากโลกไม่ได้ และการพัฒนาของโลกก็ปราศจากจีนไม่ได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งจีนพัฒนาเท่าไร โลกก็ยิ่งพัฒนาไปเท่านั้น” เวินกล่าว
ขณะที่เศรษฐกิจของโลกกำลังผันผวน นายกเวินฯ เรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของโลกเกิดสมดุลและพัฒนาอย่างยั่งยืน
การประชุมที่เวินแถลงนี้จัดขึ้นในระหว่างวันเสาร์ ถึงจันทร์ (19-21 มี.ค.) ในหัวข้อ “การเดินหน้าปฎิรูปแบบแผนการขยายตัวเศรษฐกิจจีน”
เวินตะลึง! ราคาน้ำมันโลกพุ่ง
นอกจากนั้นนายกเวินยังมีทัศนะต่อประเด็นราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูง พร้อมชี้ปัญหานโยบายการเงินของบางประเทศ และประเทศที่ประสบปัญหาทางการเมือง เช่นตะวันออกกลาง ที่เป็นต้นเหตุให้ราคาน้ำมันกระฉูด
“ผมตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นราคาน้ำมันโลกเกิน 100 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล” เวินกล่าวพร้อมให้คำมั่นว่า “จีนต้องพัฒนาระบบราคาน้ำมันให้ดีขึ้นโดยทำให้ราคาน้ำมันโลกเสถียรกว่านี้”
ความไม่สงบในตะวันออกกลางและการสูญเสียการควบคุมนโยบายการเงินของบางประเทศ ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูง
โดยนายกเวินยกตัวอย่าง สหรัฐฯ ที่สูญเสียการควบคุมนโยบายการเงินแล้วส่งผลให้ราคาสินค้าโลกเพิ่มสูงขึ้น และได้กระตุ้นเงินเฟ้อในจีนให้สูงถึง 4.9 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
ผู้กำหนดนโยบายของจีนก็พยายามควบคุมราคาที่สูงลิบลิ่ว พร้อมให้คำมั่นว่าความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจะไม่ส่งผลต่อจีน
ราคาน้ำมันโลกเมื่อวันจันทร์ (21 มี.ค.) หลังจากตะวันตกโจมตีลิเบียทางอากาศ ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นถึง 102.82 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล
เวินปิดท้ายว่า “คงไม่เวลาไม่นานสำหรับสหรัฐฯ ที่จะหันหลังกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างจริงจังเสียที”