จีนคิดหนัก แผนฯ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หลังแผ่นดินไหวญี่ปุ่น

เอเยนซี - จีนห่วงภัยพิบัติที่อาจเกิดจากกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล จากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด ทวนแผนพัฒนาพลังงานชาติ ปี พ.ศ. 2554 - 2558 รับมือ

สื่อจีนรายงาน นายซี่ย์ เจิ้นหัว รองประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปและพัฒนาฯ แห่งชาติ ที่กล่าวเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ภายหลังจากอุบัติเหตุต่อเนื่องของแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น จนทำให้เตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกุชิมา ไดอิจิ ของญี่ปุ่นระเบิดรุนแรงก่อความเสียหายแก่ระบบหล่อเย็น สร้างความกังวลต่อการหลอมละลายของเตาปฏิกรณ์ปรมาณู ซึ่งจะส่งผลให้มีกัมมันตรังสีรั่วไหล

นายซี่ย์ เจิ้นหัว กล่าวว่า จีนคงต้องคิดหนักเกี่ยวกับความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่กำลังผุดสร้างจำนวนมากในอนาคตข้างหน้าตามแผนพัฒนาปี พ.ศ. 2554 - 2558

ตามแผนพัฒนาฯ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ภาวะโลกร้อน และรักษาสิ่งแวดล้อม สมาคมนิวเคลียร์โลกฯ ระบุว่า ปัจจุบันจีนได้สร้างเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู 13 เครื่อง และกำลังจะสร้างเพิ่มอีก 27 เครื่อง ซึ่งจะทำให้จีนเป็นชาติที่มีเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูมากกว่าชาติใดๆ ในโลก

เดฟ ไตนักวิเคราะห์จาก Daiwa Securities Capital Markets Co., กล่าวว่า อุบัติเหตุอันไม่สามารถป้องกันได้ในญี่ปุ่น กำลังจะเพิ่มความวิตกกังวลต่อประชาชนจีนในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ก่อสร้างฯ ทว่า แม้จะได้เห็นล่วงหน้าในภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้แน่ๆ แต่คิดว่าจีนคงไม่เปลี่ยนใจในแผนพัฒนาพลังงานระยะยาวฯ ของชาติ สอดคล้องกับที่ จาง หลี่ชุน รัฐมนตรีช่วยฯ กระทรวงสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จีนคงไม่ล้มแผนพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ในอนาคต

ทั้งนี้ จีนถูกกดดันจากนานาชาติให้ควบคุมและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด อาทิ นิวเคลียร์ และลม ซึ่งกำหนดให้มาทดแทนอย่างน้อย ร้อยละ 15 ภายในปี พ.ศ. 2563 และรัฐบาลได้อนุมัติโครงการพลังงานนิวเคลียร์ 10 โครงการในแผนฯ 5 ปีข้างหน้านี้ โดยจะสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ให้สามารถผลิตไฟฟ้า เพิ่มขึ้นเป็น 86 กิกะวัตต์ เทียบเป็นสัดส่วนประมาณ ร้อยละ 5 ของกำลังผลิตพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด

รายงานข่าวกล่าวว่า ผลกระทบของสึนามิและแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา อาจทำให้ญี่ปุ่นต้องประสบหายนะด้านนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 25 ปี เมื่อเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ซึ่งเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวเกิดระเบิด และแผ่สารกัมมันตภาพรังสีร้ายแรงออกมา เป็นภัยร้ายแรงระดับที่นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง ออกมายอมรับว่าเป็นช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของญี่ปุ่นนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2