เอเอฟพี - เซอิจิ มาเอฮาระ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง หลังพรรคฝ่ายค้านรุมโจมตี กรณีข้อครหาเรื่องการรับเงินบริจาคจากชาวต่างชาาติ สื่อท้องถิ่นรายงาน วันนี้ (6)
นับเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ถาโถมใส่รัฐบาลญี่ปุ่น เมื่อมีเรื่องแดงออกมาว่า เซอิจิ มาเอฮาระ รับเงินบริจาคจากชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายแดนอาทิตย์อุทัย อนึ่ง มีความคาดหมายในวงกว้าง ว่า มาเอฮาระจะเป็นทายาททางการเมืองคนสำคัญของนายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง
มาเอฮาระ ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อวันศุกร์ (4) กรณีรับเงินบริจาคอย่างน้อย 50,000 เยน (ประมาณ 18,000 บาท) จากสตรีลูกหลานชาวเกาหลีคนหนึ่ง ซึ่ง มาเอฮาระ ระบุว่า รู้จักมักคุ้นมาตั้งแต่เป็นเด็ก
ทั้งนี้ ญี่ปุ่น ซึ่งเข้ายึดครองคาบสมุทรเกาหลีจนถึงช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังคงเป็นที่พักพิงของประชากรชนชาติเกาหลีร่วมล้านคน ชาวเกาหลีเหล่านี้ล้วนเป็นลูกหลานของอดีตกรรมกรที่ถูกบังคับใช้แรงงาน อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้รับสัญชาติญี่ปุ่น แม้ว่าจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ในแดนอาทิตย์อุทัยก็ตาม
เซอิจิ มาเอฮาระ แก้ต่างว่า เขาไม่เคยรู้เรื่องเงินบริจาคจำนวนดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เขายังต้องการทำงานในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศต่อไป ทว่า พรรคฝ่ายค้านกลับเดินหน้ากดดันเขาด้วยประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า การรับเงินบริจาคจากคนต่างชาติเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งควรดำเนินการอย่างจริงจัง
สำนักข่าวเกียวโด และ สำนักข่าวจิจิเพรส รายงานตรงกันว่า เซอิจิ มาเอฮาระ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ตัดสินใจลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ท่ามกลางแรงกดดันจากพรรคฝ่ายค้านที่เพิ่มขึ้น
ด้าน สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานว่า มาเอฮาระ ได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง วันนี้ ที่บ้านพัก และมีความเป็นไปได้ที่เขาจะบอกเรื่องการตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง
หลังเข้ารับภารกิจบริหารประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลาไม่ถึงปี นาโอโตะ คัง กำลังเผชิญกับปัญหารุมเร้าต่างๆ นานา รวมทั้งความนิยมของประชาชนที่ตกฮวบลงไปต่ำกว่า 20 เปอร์เซนต์ และคำขู่ขวัญถึง “ภาวะทางตันในรัฐสภา” จากพรรคฝ่ายค้าน