เอเอฟพี - มหาเศรษฐีอันดับ 1 แดนมังกร “ จง ชิ่งโฮ่ว” แนะชาวจีน การทำงานหนักคือกุญแจไขให้หลุดพ้นจากความยากจน พร้อมกับปฏิเสธเสียงวิจารณ์ที่ว่า คนรวยแทบไม่ยื่นมือช่วยเหลือคนจน ซึ่งมีอยู่หลายล้านคนในประเทศ
ในขณะที่จีนกำลังพยายามลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ซึ่งกำลังขยายกว้างขึ้น และกระจายความมั่นคั่งไปสู่ประชากรจำนวน 1,300 ล้านคนอย่างทั่วถึง อันเป็นวาระสำคัญในการประชุมสภาประชาชนจีนประจำปี ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันเสาร์ (5 มี.ค.) นั้น
มหาเศรษฐีจง ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตน้ำดื่มยี่ห้อหวาฮาฮา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่เราสามารถทำได้ก็คือการสอนให้คนยากจนรู้จักวิธีช่วยเหลือตนเอง และช่วยตนเองให้มีฐานะร่ำรวยด้วยการทำงานหนัก
เจ้าสัวจงกระโดดจากอันดับที่ 11 ขึ้นสู่ตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีนจากการจัดอันดับ โดยสำนักสำรวจจัดอันดับบุคคลมั่งคั่งหูรุ่นประจำปี 2553 ด้วยทรัพย์สินที่มีมากถึง 12,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนั้น เขายังเป็นผู้แทนคนหนึ่งในจำนวนเกือบ 3,000 คน ซึ่งเข้าร่วมการประชุมสภาประชาชนจีนในกรุงปักกิ่ง
นายจงระบุว่า มาตรฐานการดำรงชีวิตของชาวจีนดีขึ้นอย่างมาก หลังจากจีนปฏิรูปและเปิดประเทศเมื่อ 30 ปีก่อน และในช่วงอีก 5 ปีข้างหน้านี้ จีนจะเน้นความสำคัญมากขึ้นในการกระจายรายได้และลดช่องว่างความร่ำรวย
เขากล่าวว่า บริษัทหวาฮาฮา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหังโจว ทางภาคตะวันออกของจีน มีการขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานทุกปี และก่อสร้างโรงงานในภูมิภาคต่าง ๆ ที่ยากจน เพื่อ “สร้างโอกาสการทำงาน และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น”
“หากพวกเขามีสภาพที่เข้มแข็งขึ้น มีอำนาจทางเศรษฐกิจมากขึ้นแล้ว พวกเขาก็จะสามารถทำงานการกุศลได้มากขึ้นไปเอง” นายจงให้ความเห็น
นอกจากนั้น เขายังกล่าวชมรัฐบาล ที่พยายามปรับปรุงความปลอดภัยในสังคม และส่งเสริมรายได้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนกล้าจับจ่ายใช้สอย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เวิน จยาเป่าแถลงต่อที่ประชุมสภาประชาชนจีนเมื่อวันอาทิตย์ (6 มี.ค.) ว่า จีนตั้งเป้ากำจัดความยากจนในระดับรากฐานให้หมดไปภายในเวลาไม่ถึง 10 ปี และแผนการบรรเทาความยากจนระยะ 10 จนถึงปี 2563 จะเพิ่มเกณฑ์เงินเลี้ยงชีพของประชาชน ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณวันละ 0.50 เซนต์ดอลลาร์
ด้านสำนักข่าวซินหวาของทางการจีนระบุว่า มีชาวจีน 150 ล้านคนอาศัยเงินเลี้ยงชีพวันละไม่ถึง 1 ดอลลาร์
นายจงยังปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ที่ว่า เศรษฐีเมืองจีนมิได้ช่วยเหลือคนยากคนจนสักเท่าไรว่า
“ บริษัทชาวจีนมีความใจบุญรักเพื่อนมนุษย์ยิ่งกว่าบริษัทต่างชาติ” เขาระบุ
“ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ บริษัทเหล่านี้ก็บริจาคเงินให้ทุกที”
ทั้งนี้ การจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำสำหรับอภิมหาเศรษฐีของจีน ซึ่งนายบิลล์ เกตส์ และนายวอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ เป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วได้ก่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ความใจบุญของชาวจีน นอกจากนั้น ยังมีรายงานด้วยว่า แขกที่ได้รับเชิญไม่สู้เต็มใจไปร่วมงาน
ขณะที่หนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ ระบุในบทความวิจารณ์ชิ้นหนึ่งว่า การให้เพื่อสังคมยังเป็นเรื่องที่เพิ่งเริ่มต้นในจีน และ “ไม่นิยมในหมู่นักธุรกิจชาวจีน”
สำหรับนายจงนั้น เขายอมรับว่าไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยง แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า เขามีธุระยุ่งในคืนนั้น