เอเอฟพี - บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์แสนใจบุญ ขอร้องให้สหรัฐฯยุติการตัดงบประมาณช่วยเหลือประเทศยากจน วานนี้ (2)
“เมื่อมองเรื่องนี้ในมุมของนักธุรกิจ ผมคิดว่าการลงทุนกับประชากรที่ยากจนที่สุดในโลกเป็นการใช้งบประมาณอย่างชาญฉลาดที่สุดแล้ว” เกตส์ กล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้นำสหรัฐฯ จากทั่วโลก (USGLC)
“ผู้ติดเชื้อเอดส์กว่า 5 ล้านคนทั่วโลกได้รับการรักษาก็เพราะเงินที่เราช่วยเหลือต่างชาติ และด้วยเงินจำนวนนี้อีกเช่นกันที่ทำให้เด็กนับล้านคนได้นอนในมุ้ง ที่ป้องกันพวกเขาจากโรคไข้มาลาเรีย” เกตส์กล่าว
“งบประมาณเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ที่เราช่วยเหลือประเทศยากจนไม่เพียงต่อชีวิตคนนับล้าน แต่ยังมีผลอย่างมากต่อประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งก็แปลว่ามันมีผลต่อเศรษฐกิจของเราเองด้วย”
เกตส์ กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ เมเดอลีน อัลไบรต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และทอม ริดจ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงภายใน ซึ่งทั้งสองก็สนับสนุนให้สหรัฐฯ หยิบยื่นความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศที่ยากจนต่อไป
“การเป็นผู้นำไม่อาจได้มาฟรีๆ” อัลไบรต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสมัยของประธานาธิบดี บิลล์ คลินตัน กล่าว
“เรายังไม่อาจหวังให้ต่างชาติต่อสู้กับวิกฤตที่จะเป็นอันตรายต่อเราเองได้ เว้นแต่เราจะช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของพวกเขาเสียก่อน”
ริดจ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสมัยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช กล่าวว่า เงินช่วยเหลือต่างชาติมีส่วนส่งเสริมภารกิจทางทหาร และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ
“ขณะที่เราพยายามส่งเสริมภาพลักษณ์ของอเมริกา ผลมองว่านั่นเป็นเพียงผลผลิต เรามีของดีๆ ที่จะขายอยู่แล้ว แต่เครื่องหมายการค้าของมันก็คือระบบค่านิยมของเราเอง”
สภาคองเกรสพยายามตัดค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ และช่วยให้ประเทศพ้นวิกฤตเศรษฐกิจที่เรื้อรังมานาน
พรรครีพับลิกันซึ่งได้ชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้สัญญาว่าจะขัดขวางการใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือยของรัฐบาลโอบามา ขณะที่สหรัฐฯ มียอดขาดดุลงบประมาณสะสมสูงถึง 14 ล้านล้านดอลลาร์ และยอดขาดดุลงบประมาณต่อปีราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
เช้าวานนี้ (2) เอริก แคนเทอร์ ผู้นำ ส.ส.พรรครีพับลิกัน ซึ่งมีเสียงข้างมากในสภา แนะนำให้รัฐบาลตัดเงินสนับสนุนกองทุนสหประชาชาติจำนวนหลายล้านดอลลาร์ รวมไปถึงเงินช่วยเหลือประเทศที่เป็นเจ้าหนี้ของสหรัฐฯ เอง