ไชน่าเดลี่ - การขุดค้นพบกระดูกม้าราว 80 ตัวฝังอยู่ใต้สุสานจักรพรรดิจีนโบราณอายุกว่า 2,000 ปี ได้จุดประกายตำนาน “ม้าเหงื่อโลหิต” หรือม้าแห่งสรวงสวรรค์จากดินแดนเอเชียกลางขึ้นมาอีกครั้ง
หยัง อู่จั้น นักวิจัยสถาบันโบราณคดีประจำมณฑลส่านซี กล่าวว่า “ขุดค้นพบกระดูกม้าจากหลุมพลีกรรมภายในสุสานของจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (206 ปีก่อน ค.ศ. - ค.ศ. 24) ณ เมืองซิงผิง มณฑลส่านซี”
หยังกล่าวว่า ทีมงานของเขาเริ่มขุดค้นหลุมทั้งสองอย่างระมัดระวังมาตั้งแต่เดือน ก.ย. ปี 2551 แล้ว แต่ข่าวการขุดค้นนี้ก็ไม่ได้หวือหวา จนกระทั่งย่างเข้าสู่วันจันทร์ (21 ก.พ.) ก็ขุดไปเจอหลุม 2 แห่งเป็นโพรงขนาดใหญ่ ภายในยังประกอบด้วยอุโมงค์แกะสลักอีก 20 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งจะมีม้าหนุ่มสองตัว กับหุ่นทหารดินเผา 1 ตัว ยืนเฝ้ายามอยู่
หยังกล่าวว่า นักโบราณคดีได้ดำเนินการตรวจสอบ ก็ยืนยันว่ากระดูกม้าเหล่านี้เป็นม้าตัวผู้ที่โตเต็มวัย ขณะที่นักวิทยาศาสตร์จะได้ทดสอบดีเอ็นเอเพื่อค้นหาทางพันธุกรรมต่อไป
การค้นพบในครั้งนี้ ได้จุดประกายตำนานเก่าแก่ของจีน เกี่ยวกับม้าเหงื่อโลหิตจากเอเชียกลาง โดยเฉพาะประเทศเติร์กเมนิสถาน โดยหยังเล่าว่า “ตำนานว่ากันว่า จักรพรรดิอู่ตี้จะพระราชทานรางวัลอย่างงามแก่ผู้ที่สามารถหาม้าเหงื่อโลหิตพันธุ์แท้จากเอเชียกลางแดนไกลมาถวายได้ ซึ่งม้านี้หาได้ยากในจีน”
ปัจจุบันนี้ ม้าชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่ม Akhal-Teke (มาจากชื่อเผ่า Teke ในเติร์กเมนิสถาน, Akhal แปลว่า บริสุทธิ์, Akhal-teke จึงแปลว่า สายเลือด Teke บริสุทธิ์) ซึ่งถือว่าเป็นม้าสายพันธุ์เก่าแก่สุดพันธุ์หนึ่งของโลก
บทกวีของจักรพรรดิอู่ตี้พรรณาถึงม้า Akhal-Teke ของพระองค์ ว่าเป็น “ม้าจากสรวงสวรรค์”
ม้าเหงื่อโลหิต เป็นที่เลื่องลือเรื่องความเร็วฝีเท้า ความอดทน และในขณะควบวิ่ง จะมีเหงื่อเลือดเหลว ๆ ไหลออกมาจากตัวม้า เชื่อกันว่าเจงกิสข่าน แห่งมองโกล (ค.ศ. 1167-1227) ก็ประทับม้าพันธุ์นี้
จักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ เป็นที่รู้จักในฐานะจักรพรรดิผู้ทรงเปิดเส้นทางสายไหมเชื่อมเส้นทางการค้าระหว่างเอเชียและยุโรปในสมัยโบราณ โดยหลังจากครองราชย์ได้ 16 ปี ในปี 139 ก่อนค.ศ. ก็ได้เริ่มสร้างสุสานของพระองค์ รวมระยะเวลาการก่อสร้างแล้วเสร็จ 53 ปี
ในสุสานของพระองค์ ประกอบไปด้วยหลุมพลีกรรมกว่า 400 หลุม ซึ่งมากกว่าของจักรพรรดิจิ๋นซี แห่งราชวงศ์ฉินผู้สร้างกำแพงเมืองจีนเสียอีก
ลักษณะของม้าที่สายพันธุ์น่าจะมีความใกล้เคียงกับ "ม้าเหงื่อโลหิต" ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ภาพจาก www.hudong.com)