เอเอฟพี - ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ทำให้ผู้คนบนเกาะฮ่องกงถึงกับใจฝ่อ หลังจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอช 1 เอ็น 1 ระบาดครั้งใหญ่ เมื่อปี 2552 และคร่าชีวิตชาวฮ่องกงถึงราว 80 คน ล่าสุดเจ้าไข้หวัดใหญ่จอมวายร้ายนี้ก็ทำท่าว่าจะออกมาอาละวาดอีก และพบผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 12 คนแล้ว นับตั้งแต่สิ้นเดือนมกราคมเป็นต้นมาจากพิษสงของมัน
ผู้คนบนเกาะฮ่องกง ซึ่งยังเจอโรคซาร์สระบาดเมื่อปี 2546 ซึ่งคร่าชีวิตชาวฮ่องกงไป 300 คน จึงต้องงัดสารพัดวิธีมาดูแลร่างกายให้แข็งแรง เพื่อเพิ่มภูมิต้านทาน และพึ่งทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแผนจีนในการรักษา
ว่ากันว่ามียาดีรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้ผลชะงัดอยู่ตำราหนึ่งเป็นของคุณปู่ วัย 80 ปี ชื่อว่า นาย มัก ไตกว่อง (Mak TaiKwong) อาวุธลับในการสู้กับโรคไข้หวัดใหญ่ของแกกำลังบิดตัวยั้วเยี้ย และร้องเสียงฟ่อ ๆ อยู่ภายในตะกร้า ที่วางอยู่ข้างกายคุณปู่
“คนที่ได้กินดีงูปีละ 4 ถึง 5 ครั้ง จะมีร่างกายแข็งแรงขึ้น และมีโอกาสน้อยมากที่จะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่” คุณปู่ ซึ่งมีอาชีพขายงูท่านนี้การันตี
ว่าแล้วก็ดึงงูจงอางออกมาจากตะกร้าตัวหนึ่ง แกจะลงมือฆ่า เพื่อนำมาปรุงอาหาร แล้วจำหน่าย
“ดูอย่างผมสิครับ อายุกว่า 80 เข้าไปแล้ว แต่แทบไม่เคยเป็นหวัด เพราะผมกินงูเป็นประจำ”
อันที่จริงนั้น ชาวจีนรู้จักนำงูมาใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มานานหลายพันปีแล้ว เช่นทำเป็นยาดองรักษาโรคข้ออักเสบ นำอวัยวะสืบพันธุ์ของงูมารักษาโรคไต และเป็นยาชูกำลังทางเพศ ส่วนถุงน้ำดีของมันก็ใช้รักษาโรคหลอดลมอักเสบ
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมัครใจทำตามวิธีของคุณปู่แก หลายคนพอใจรักษาโรคภัยไข้เจ็บของตัวด้วยการแพทย์แผนจีน เช่นตากล้องรับงานอิสระ วินเซนต์ ตู้ เล่าว่า เขารักษาโรคหืดหอบเรื้อรังด้วยยาจีนมาตั้งแต่เด็ก ๆ และนับถือว่าสมุนไพรจีนนี่แหละสามารถสยบไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้
“ยาแผนตะวันตกจะรักษาโรคให้ผลรวดเร็วกว่า แต่ก็มักมีผลข้างเคียงตามมาเยอะ” เขาว่า
นายเปียน เจ้าเซียง ผู้อำนวยการคลินิกการแพทย์แผนจีนของมหาวิทยาลัยแบ๊ปติสต์ ของฮ่องกงระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ที่คลินิกเพิ่มร้อยละ 37 ในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยมีโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลการแพทย์แผนจีน ซึ่งรับผู้ป่วยในเป็นครั้งแรกของฮ่องกง
นายเปียนระบุว่า การแพทย์แผนจีนมีวิธีการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ดีกว่าการแพทย์แผนตะวันตกทั้งในด้านประสิทธิภาพของการรักษา ตลอดจนการควบคุมอาการและผลข้างเคียง โดยในการรักษาแผนจีนนั้น หมอจะเจียดยารักษาเป็นเฉพาะรายบุคคลไปแล้วแต่สภาพร่างกายของบุคคลนั้น
อย่างไรก็ตาม ฮ่องกงมีปัญหาเรื่องมาตรฐานในการผลิตยาจีน โดยยาจีน ที่วางขายอยู่ในฮ่องกงถึงราวครึ่งหนึ่งมิได้ผ่านการตรวจสอบหาสารปนเปื้อน เช่น โลหะหนัก และสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง กระทั่งเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงต้องออกกฎหมายห้ามขายยาจีน ที่มิได้จดทะเบียน โดยหากฝ่าฝืน มีโทษปรับสูงสุด 10,000 ดอลลาร์ฮ่องกง และจำคุก 2 ปี
กระนั้นก็ตาม ชาวฮ่องกงมากมายก็ยังคงนิยมรักษาโรคด้วยตำรับยาแผนจีนอย่างเหนียวแน่น
“คนหนุ่มสาวหลายคนเดี๋ยวนี้หันมาใช้ยาจีน ” เจ้าของร้านขายยาทั้งแผนจีนและตะวันตกรายหนึ่งเล่า
“ยาตะวันตกส่วนใหญ่แล้วใช้สำหรับคนที่อยากรักษาให้หายไว ๆ แต่มันไม่ได้รักษาที่ต้นตอของปัญหา … ส่วนยาจีนรักษาทั่วตลอดทั้งระบบของร่างกาย” เขาระบุ