เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีจีนเยี่ยมศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนในปักกิ่ง เพื่อลดความตึงเครียดในสังคมอันเป็นผลมาจากการคอรัปชั่น ความไม่เป็นธรรม และช่องว่างทางฐานะ
สำนักข่าวซินหวาและโทรทัศน์จีนรายงานว่า “นายกฯ เวิน ได้ไปเยี่ยมสำนักงานรับเอกสารร้องทุกข์แห่งรัฐ (State Bureau for Letters and Calls) เมื่อวันจันทร์ (24 ม.ค.) พร้อมกับได้พบปะกับกลุ่มผู้มาร้องทุกข์จากมณฑลต่างๆ
การที่เวิน จยาเป่ามาเยี่ยมศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ซึ่งรัฐบาลกำหนดให้เป็นเขตประท้วงของประชาชนด้วยนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำระดับนายกฯ ลงไปพูดคุยฟังปัญหาชาวบ้าน นับตั้งแต่สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ปี 2492เป็นต้นมา
แม้ว่าจีนจะประสบความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจ ทว่าปัญหาภายในได้สร้างความไม่สงบในสังคมไม่น้อย เมื่อประชาชนสิ้นหวังกับรัฐบาลท้องถิ่นที่ไม่แก้ไขปัญหาให้พวกเขา ก็จะเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อยื่นคำร้องแก่ผู้นำระดับชาติ หรือไม่ก็ทำการประท้วงด้วยวิธีการที่รุนแรงมากขึ้นๆ
เจ้าหน้าที่มักมองผู้ร้องทุกข์เหล่านี้ว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ บ่อยครั้งที่พวกเขาเดินทางเข้ามาประท้วงในปักกิ่ง ก็มักถูกจับและส่งตัวกลับบ้านหรือไม่ก็ถูกขังในคุกมืดโดยปราศจากการไต่สวน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่นายกฯ เวินมาเยี่ยมศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ระดับชาตินี้ สะท้อนวิกฤตสังคมที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้นทุกทีจากความไม่พอใจความคับแค้นของประชาชน ซ้ำร้ายยังขาดแคลนช่องทางรับเรื่องร้องทุกข์และแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
ซีซีทีวีของจีน ฉายภาพนายกเวินฯ พบปะกับผู้ร้องเรียนจากเทียนจิน จี๋หลิน ซานตง มองโกเลียใน หูเป่ย เหอเป่ย ซานซี และเจียงซู โดยนายกฯ เวิน ได้รับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของพวกเขา
“ผมมาที่นี่เพื่อรับฟังความเห็นเรื่องการทำงานของรัฐบาล ขอทุกท่านอย่าได้ปิดบัง รู้สึกอย่างไรก็ให้พูดไปตามนั้น” ซินหวา ยกคำกล่าวของเวิน
ปัญหาของผู้ร้องทุกข์แทบทั้งหมดมาความเดือดร้อนจากกรณีการถูกไล่ที่ และปัญหาการถือครองกรรมสิทธิใช้ที่ดิน
ขณะที่เวิน ชี้ว่า “เรื่องการเวนคืนที่ดินและการรื้อถอนบ้านได้เกิดขึ้นในเขตชนบท ซึ่งขณะนี้คณะมุขมนตรีกำลังวิจัยตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อพิทักษ์สิทธิประชาชน”
“พื้นดินเปรียบเสมือนชีวิตของเกษตรกร รัฐบาลต้องทดสอบและปรับปรุงโครงการปฏิรูปที่ดินอย่างเข้มงวด ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และต้องจ่ายต่าชดเชยที่เหมาะสมด้วย” เวินย้ำ
เวินเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่มีหน้าที่รับฟังปัญหาประชาชน ให้อดทนต่อผู้เรียกร้องและส่งต่อปัญหาให้รัฐบาลกลางทราบ โดยชี้ว่า “รัฐบาลเป็นของประชาชน อำนาจของรัฐก็ได้มาจากประชาชน”
ศาสตราจารย์จู ลี่จยา จากสำนักธรรมาภิบาลจีน กล่าวว่า การที่เวินมาเยี่ยมกลุ่มผู้ร้องทุกข์ด้วยตัวเองครั้งนี้ ซึ่งภาพที่ผู้นำระดับสูงสุดมาพบประชาชนที่มาร้องทุกข์ประท้วงเป็นภาพที่พบเห็นได้ยากมากในจีน ดังนั้น จึงสะท้อนปัญหาภายในของจีนอย่างเข้มข้น
จู กล่าวว่า “ทั้งปัญหาคอรัปชั่น การชุมนุม และกระแสไม่พอใจรัฐบาลได้ท้าทายความมั่นคงทางสังคมและการบริหารงานของพรรคคอมมิวนิสต์อย่างหนัก ครั้งนี้นายกฯ เวิน ต้องการแสดงให้เห็นว่า จีนให้ความสำคัญในการรับฟังปัญหาฯ แม้ว่าวิธีการรับมือกับผู้ร้องทุกข์แบบปราศจากความรุนแรง ยังคงเป็นเรื่องยากและซับซ้อนสำหรับรัฐบาลจีนอยู่”
หู ซิงโต้ว นักวิเคราะห์การเมืองของปักกิ่งกล่าวว่า “การที่เวินมารับฟังความเดือดร้อนนี้ ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี”
นักวิชาการแผ่นดินใหญ่ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเปลี่ยนระบบการรับฟังความคิดประชาชนมาหลายปี ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นปกติจะไม่ฟังเสียงเดือดร้อนใด ๆ อยู่แล้ว แถมยังตอบโต้รุนแรงกับผู้ที่แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
หู ซิงโต้วชี้อีกว่า “ท่าทีของเวินฯ ไม่อาจแก้ไขภาพลักษณ์ย่ำแย่ของปักกิ่งได้ เพียงแต่ลดความตึงเครียดระหว่างประชาชนกับรัฐบาลลงได้บ้าง ปัญหาจริง ๆ อยู่ที่ตัวระบบการฟังเสียงประชาชนที่ยังขาดนิติธรรม”
อู๋ เว่ย หนึ่งในผู้ร้องทุกข์จากเขตไห่เตี้ยน ซึ่งถูกไล่ที่มาตั้งแต่ปี 2550 ได้แสดงความสงสัยเกี่ยวกับการที่เวินพบปะผู้ร้องทุกข์ว่า “คนที่เวินไปพบนั้นดูเหมือนไม่ใช่ผู้เดือดร้อนตัวจริง และผมก็คิดง่าย ๆ ว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่นายกฯ เวินจะมาพบคนอย่างพวกผม ผมว่าสิ่งที่เวินทำก็เป็นแค่การโชว์ ซึ่งจะไม่ช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพวกผมเลย”