xs
xsm
sm
md
lg

ความหวังเร่งปฏิรูปประชาธิปไตยฮ่องกงริบหรี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ริต้า ฟ่าน สีว์ ลี่ไท่  (Rita Fan Hsu Lai-tai) อดีตประธานสภานิติบัญญัติเขตปกครองพิเศษฮ่องกง - เอเจนซี่
เอเจนซี่ – นักการเมืองหญิงฮ่องกงดับความหวังผ่าทางตันปฏิรูปการเมืองบนเกาะ ระบุปักกิ่งตอบสนอง “รายการความประสงค์” ที่มีหลายข้อของนักประชาธิปไตยยาก

ริต้า ฟ่าน สีว์ ลี่ไท่ (Rita Fan Hsu Lai-tai) อดีตประธานสภานิติบัญญัติเขตปกครองพิเศษฮ่องกงระบุภายหลังกลับจากการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารประจำสภาผู้แทนประชาชน ที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) ว่า ตนได้ถ่ายทอดทรรศนะของกลุ่มพันธมิตรเพื่อสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งของประชาชนทุกคน (the Alliance for Universal Suffrage) ให้เจ้าหน้าที่บนแผ่นดินใหญ่รับทราบตามที่ได้สัญญากับทางกลุ่มแล้ว แต่เจ้าหน้าที่บนแผ่นดินใหญ่มิได้ขานรับความคิดเห็นของกลุ่มพันธมิตรเลย

นอกจากนั้น ริต้า ซึ่งทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างสองฝ่าย ยังเตือนว่าเป็นเรื่องยาก ที่รัฐบาลปักกิ่งจะทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตร

กลุ่มพันธมิตรประกอบด้วยกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยทั้งหมด 11 กลุ่ม ซึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งเร่งให้เกาะฮ่องกงมีประชาธิปไตยเต็มใบเร็วขึ้น

ด้านนายโรเบิร์ต เหอ จวิ่นเหริน (Albert Ho Chun-yan) ส.ส. และผู้นำพรรคประชาธิปไตยเห็นด้วยกับริต้าว่า ยังมีอุปสรรคมากมายขัดขวางกระบวนการไปสู่ประชาธิปไตย พร้อมกับย้ำว่าเขาปรารถนาเจรจากับรัฐบาลปักกิ่ง

นายเหอเคยกล่าวเมื่อเดือนก.พ.ว่า หากยอมรับให้ฮ่องกงมีประชาธิปไตยเต็มใบในช่วงปี 2560 – 2563 ซึ่งให้ชาวฮ่องกงมีสิทธิเลือกหัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษ และเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติทั้งหมดแล้ว ก็จำเป็นต้องมีเวลาให้ประชาชนได้เพิ่มบทบาท เข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมือง ซึ่งถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งควรเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนตัดสินใจเมื่อปี 2550 ว่าอาจสนับสนุนให้ฮ่องกงเลือกตั้งหัวหน้าคณะผู้บริหารตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ในปี 2560 และเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดตามระบอบประชาธิปไตยในปี 2563

แต่สำหรับการเลือกตั้งปี 2555 นั้น ยังมีความเป็นประชาธิปไตยเพียงเล็กน้อย โดยเสนอให้เพิ่มจำนวนสมาชิกสภาจาก 60 ที่นั่ง เป็น 70 ที่นั่ง ซึ่ง 5 ที่นั่ง มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน นอกจากนั้น เสนอให้เพิ่มจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง ซึ่งจะทำหน้าที่เลือกหัวหน้าคณะผู้บริหาร จาก 800 คน เป็น 1,200 คน

กำลังโหลดความคิดเห็น