การผลิตจีนเดือนก.พ.ปรับขึ้น ส่งสัญญาณศก.ชะลอการหดตัว

เดอะ วอลล์สตรีต เจอร์นัล/เอเจนซี่ – ภาคการผลิตแดนมังกรประจำเดือนกุมภาพันธ์ยังคงหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ทว่าย่างก้าวการหดตัวชะลอลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อความหวังว่าเศรษฐกิจจีนอาจเริ่มมีเสถียรภาพแล้ว

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ของจีนประจำเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทางการจีนประกาศเมื่อวันพุธ (4 มี.ค.) ปรับขึ้นร้อยละ 49 จากร้อยละ 45.3 ในเดือนมกราคม และเห็นได้ว่ามีการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากแตะระดับต่ำสุดที่ร้อยละ 38.8 ในเดือนพฤศจิกายน

PMI ของทางการจีนเป็นไปในทิศทางเดียวกับPMIของจีนประจำเดือนกุมภาพันธ์ ที่บริษัทโบรกเกอร์ CLSA ประกาศเมื่อวันจันทร์ (2 มี.ค.) ซึ่งปรับขึ้นร้อยละ 45.1 จากร้อยละ 42.2 ในเดือนมกราคม และในเดือนพฤศจิกายนแตะระดับต่ำสุดที่ร้อยละ 40.9

PMIของจีนปรับขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งทำให้เกิดความหวังกันว่าเศรษฐกิจแดนมังกรอาจกำลังเริ่มมีเสถียรภาพแล้วก็ได้ หลังจากเศรษฐกิจจีนชะลอการเติบโตลงมากที่สุดในรอบ 7 ปี ในไตรมาส 4 ของปี 2551

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขPMIดังกล่าวยังต่ำกว่าร้อยละ 50 อันหมายถึงการหดตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ยังไม่ด่วนสรุปว่านั่นเป็นการฟื้นตัว ซึ่งต้องรอดูก่อนว่าทิศทางการปรับขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่? โดยในเดือนนี้ รัฐบาลจีนจะประกาศตัวเลขการผลิตอุตสาหกรรมและการลงทุนในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งจะทำให้ภาพแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนชัดเจนขึ้น

ทั้งนี้ ยกเว้นการปรับขึ้นของการปล่อยสินเชื่อของธนาคารแล้ว ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในเดือนมกราคมยังน่าห่อเหี่ยวใจ โดยการส่งออกและนำเข้าดิ่งเหว ขณะที่เงินเฟ้อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคลดลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ก็ปรากฏสัญญาณว่าการหดตัวทางเศรษฐกิจของจีนกำลังชะลอลง โดยดัชนีคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกงวดใหม่ประจำเดือนกุมภาพันธ์ปรับขึ้นร้อยละ 39.5 จากร้อยละ 36.3 ในเดือนมกราคม หลังจากแตะระดับต่ำสุดที่ร้อยละ 28.2 ในเดือนพฤศจิกายน

ขณะที่ยังปรากฏสัญญาณการชะลอการปลดคนงานลง โดยดัชนีการว่างงานเดือนกุมภาพันธ์ปรับขึ้นร้อยละ 46.6 จากร้อยละ45.0 ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการแตะระดับต่ำสุด

นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่ากล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือ 584.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้บังเกิดผลบ้างแล้ว แม้ว่าผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกยังคงขยายกว้างก็ตาม

นายเวินยังอ้างการเติบโตที่แข็งแกร่งของภาคการบริโภคและการปล่อยสินเชื่อเมื่อเดือนมกราคม ว่าเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังกระเตื้องขึ้น

นอกจากนั้น ยังระบุว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วง 10 วันของสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกุมภาพันธ์ปรับขึ้นร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และปรับขึ้นร้อยละ 13.2 จากช่วง 10 วันแรกของเดือนเดียวกัน โดยการใช้กระแสไฟฟ้าถือเป็นตัวแทนของการดำเนินกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมของจีน

นายเวินยังกล่าวด้วยว่ารัฐบาลจีนพร้อมจะดำเนินมาตรการ ที่หนักแน่นยิ่งขึ้น เมื่อใดก็ตามที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า รัฐบาลจีนจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ผลกระทบต่อผู้ส่งออกเริ่มปรากฏชัดเจน โดยนายกรัฐมนตรีเวินจะแถลงการกำหนดเป้าหมายด้านนโยบายเศรษฐกิจ,สังคม และการต่างประเทศในปี 2552 ของรัฐบาลจีนต่อที่ประชุมประจำปีสภาผู้แทนประชาชน ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสฯ นี้ (5 มี.ค.)