《老当益壮》
老(lǎo)อ่านว่า เหล่า แปลว่า เก่า,แก่
当(dāng)อ่านว่า ตัง แปลว่า ควรจะ
益(yì)อ่านว่า อี้ แปลว่า เพิ่มพูน
壮(zhuàng)อ่านว่า จ้วง แปลว่า แข็งแกร่ง
ในยุคตงฮั่น(ฮั่นตะวันออก) มีคนผู้หนึ่ง นามว่า หม่าหยวน เขาเป็นผู้ที่มีปนิธานสูงส่ง ตั้งแต่เล็กเฝ้าใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งจะต้องเดินทางไปยังขอบเขตชายแดนแผ่นดินเพื่อพัฒนาการปศุสัตว์ และเกษตรกรรม
เมื่อหม่าหยวนเติบโต เขาได้รับราชการในหน้าที่นักการในศาล ครั้งหนึ่งขณะที่ปฏิบัติหน้าที่คุมตัวนักโทษเพื่อไปส่งยังเมืองฉางอาน เมื่อไปได้เพียงครึ่งทาง เขากลับรู้สึกสงสารนักโทษจึงได้ปล่อยพวกเขาไป ส่วนตนเองก็ทิ้งตำแหน่งราชการหลบหนีไปยังแถบมณฑลกานซู่ ซึ่งในช่วงดังกล่าวพอดีกับที่วังหลวงมีคำสั่งอภัยโทษเหล่านักโทษ เรื่องราวความผิดแต่หนหลังจึงไม่ถูกรื้อฟื้น หม่าหยวนจึงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปกับการเลี้ยงสัตว์และทำเกษตรกรรม
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ปี หม่าหยวนกลายเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของทุ่งปศุสัตว์และที่ดินผืนใหญ่ มีแพะ แกะ และโคในครอบครองนับพันๆ ตัว ทว่าเขากลับไม่พอใจชีวิตเศรษฐีเช่นนี้ เขาจึงนำทรัพย์สินที่หามาได้ รวมทั้งสัตว์ต่างๆ ที่เลี้ยงไว้ แจกจ่ายให้กับญาติมิตร เพื่อนฝูง ส่วนตัวเองกลับดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายต่อไป
หม่าหยวนมักกล่าวอยู่เสมอว่า “ชายชาตรีนั้น ยิ่งยากจนยิ่งควรหนักแน่นในอุดมการณ์ ยิ่งสูงวัยจิตใจกลับยิ่งต้องแข็งแกร่ง”
ต่อมา ในรัชสมัยของพระเจ้ากวงอู่ตี้ หม่าหยวนกลับมาดำรงตำแหน่งนายพลสำคัญแห่งฮั่นตะวันออก นำทัพออกรบป้องกับประเทศหลายครั้ง มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อแผ่นดินจีนยุคนั้น
สำนวน “เหล่าตังอี้จ้วง” หรือ “ยิ่งแก่ยิ่งแกร่ง” ใช้เปรียบเทียบกับผู้สูงอายุแล้ว แต่ยังคงมีความกระฉับกระเฉง แข็งแรง ไม่เลอะเทอะ เลอะเลือน
สำนวนนี้ใช้ในตำแหน่งภาคแสดง(谓语)หรือส่วนขยายนาม(定语)มีความหมายทางบวก
ที่มา http://baike.baidu.com
ตัวอย่างประโยค
“在六七十岁的老前辈中,我们可以看到富有斗争精神、~的伙伴。”
ในช่วงอายุ 60-70 ปีของท่านผู้เฒ่า เรายังคงเห็นจิตวิญญาณการต่อสู้อย่างเต็มเปี่ยม เป็นแนวรบซึ่งยิ่งแก่ยิ่งแข็งแกร่ง
老(lǎo)อ่านว่า เหล่า แปลว่า เก่า,แก่
当(dāng)อ่านว่า ตัง แปลว่า ควรจะ
益(yì)อ่านว่า อี้ แปลว่า เพิ่มพูน
壮(zhuàng)อ่านว่า จ้วง แปลว่า แข็งแกร่ง
ในยุคตงฮั่น(ฮั่นตะวันออก) มีคนผู้หนึ่ง นามว่า หม่าหยวน เขาเป็นผู้ที่มีปนิธานสูงส่ง ตั้งแต่เล็กเฝ้าใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งจะต้องเดินทางไปยังขอบเขตชายแดนแผ่นดินเพื่อพัฒนาการปศุสัตว์ และเกษตรกรรม
เมื่อหม่าหยวนเติบโต เขาได้รับราชการในหน้าที่นักการในศาล ครั้งหนึ่งขณะที่ปฏิบัติหน้าที่คุมตัวนักโทษเพื่อไปส่งยังเมืองฉางอาน เมื่อไปได้เพียงครึ่งทาง เขากลับรู้สึกสงสารนักโทษจึงได้ปล่อยพวกเขาไป ส่วนตนเองก็ทิ้งตำแหน่งราชการหลบหนีไปยังแถบมณฑลกานซู่ ซึ่งในช่วงดังกล่าวพอดีกับที่วังหลวงมีคำสั่งอภัยโทษเหล่านักโทษ เรื่องราวความผิดแต่หนหลังจึงไม่ถูกรื้อฟื้น หม่าหยวนจึงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปกับการเลี้ยงสัตว์และทำเกษตรกรรม
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ปี หม่าหยวนกลายเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของทุ่งปศุสัตว์และที่ดินผืนใหญ่ มีแพะ แกะ และโคในครอบครองนับพันๆ ตัว ทว่าเขากลับไม่พอใจชีวิตเศรษฐีเช่นนี้ เขาจึงนำทรัพย์สินที่หามาได้ รวมทั้งสัตว์ต่างๆ ที่เลี้ยงไว้ แจกจ่ายให้กับญาติมิตร เพื่อนฝูง ส่วนตัวเองกลับดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายต่อไป
หม่าหยวนมักกล่าวอยู่เสมอว่า “ชายชาตรีนั้น ยิ่งยากจนยิ่งควรหนักแน่นในอุดมการณ์ ยิ่งสูงวัยจิตใจกลับยิ่งต้องแข็งแกร่ง”
ต่อมา ในรัชสมัยของพระเจ้ากวงอู่ตี้ หม่าหยวนกลับมาดำรงตำแหน่งนายพลสำคัญแห่งฮั่นตะวันออก นำทัพออกรบป้องกับประเทศหลายครั้ง มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อแผ่นดินจีนยุคนั้น
สำนวน “เหล่าตังอี้จ้วง” หรือ “ยิ่งแก่ยิ่งแกร่ง” ใช้เปรียบเทียบกับผู้สูงอายุแล้ว แต่ยังคงมีความกระฉับกระเฉง แข็งแรง ไม่เลอะเทอะ เลอะเลือน
สำนวนนี้ใช้ในตำแหน่งภาคแสดง(谓语)หรือส่วนขยายนาม(定语)มีความหมายทางบวก
ที่มา http://baike.baidu.com
ตัวอย่างประโยค
“在六七十岁的老前辈中,我们可以看到富有斗争精神、~的伙伴。”
ในช่วงอายุ 60-70 ปีของท่านผู้เฒ่า เรายังคงเห็นจิตวิญญาณการต่อสู้อย่างเต็มเปี่ยม เป็นแนวรบซึ่งยิ่งแก่ยิ่งแข็งแกร่ง