ไต้หวันไฟเขียว! ลุยลงทุนไฮเทคในจีน

เอเอฟพี –ไต้หวันไฟเขียวอนุญาตให้บริษัทผู้รับจ้างผลิตชิปและจอแบนของตน สามารถเข้าไปลงทุนในจีนได้ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องพัฒนาความร่วมมือทางเทคโนโลยีชั้นสูง สื่อรายงานอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่กระทรวงเศรษฐการ เมื่อวันที่ 10 ก.พ.

เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเศรษฐการกล่าวว่า อู๋ ตุนอี้ นายกรัฐมนตรีไต้หวัน ได้อนุมัติการยกเลิกข้อห้ามการลงทุนและส่งออกเทคโนโลยีการผลิตไฮเทคไปยังจีน อาทิ การผลิตเซมิคอนดักเตอร์, LCD จอแบน และออกแบบชิพ

แต่รัฐบาลจะยังคงห้ามการลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตแผ่นชิพคอมพิวเตอร์หรือแผ่นเวเฟอร์ชิพขนาด 12 นิ้ว เนื่องจากยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน และแผงวงจร กับเซมิคอนดักเตอร์ ยังมีความยุ่งยากในเรื่องขนาด ซึ่งบริษัทไต้หวันจะได้รับอนุญาตเฉพาะการผลิตเวเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว โดยกฎใหม่นี้ รอเพียงให้คณะกรรมการฯ ด้านเทคนิคได้ตรวจทานเรียบร้อย

ข้อเรียกร้องให้คลายกฎข้อห้ามการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีชั้นสูงในแผ่นดินใหญ่ เริ่มมีมากขึ้น โดยชี้ว่าไต้หวันกำลังจะเสียเปรียบและอาจสูญเสียตลาดในจีนให้แก่คู่แข่ง จากญี่ปุ่น เกาหลี และตกอยู่ท่ามกลางบรรดาผู้ผลิตใหญ่ๆ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าหากรัฐบาลไต้หวันยังห้ามการลงทุนและส่งออกเทคโนโลยีการผลิตไฮเทคนี้ไปยังจีน

วิเวียน เหลียน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอุตสาหกรรม กระทรวงเศรษฐการ กล่าวว่า การลงทุนในจีนควรจะเป็นเทคโนโลยีการผลิตบางรุ่นที่ต่ำกว่าในไต้หวัน และการประกาศอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นก่อนวันตรุษจีนปีใหม่ซึ่งไม่เกินวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นี้ และว่าเมื่อมีการประกาศนโยบายไปแล้ว ก็จะมีผลฯ ทางปฏิบัติทันที

การผ่อนคลายกฎนี้ จะทำให้บริษัทไต้หวันอย่าง AU Optronics Corp, Chi Mei Optoelectronics corp. และ Innolux Display Corp มีความใกล้ชิดกับลูกค้าจีน และยังสามารถจะแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่นเช่น บริษัทไฮเทคของเกาหลีใต้ อย่าง Samsung Electronics และ LG Display ที่รุกไปในจีนสร้างโรงงานผลิตจอแอลซีดีเทคโนโลยีชั้นสูงระดับ Gen 7.5 และ Gen 8 ก่อนแล้ว

ทันทีที่ข่าวนี้ออกไป ราคาหุ้นของ Innolux พรวดขึ้น 2.6 % อยู่ที่ $ 51.60 ส่วนAU เขยิบขึ้น 1.2 %ที่ราคา $36.65 และChi Mei ก็สูงขึ้น 2.5 % ( $ 24.65) ดัชนี Taiex เพิ่มขึ้น 1.5 %

พร้อมกันนี้ เหลียนกล่าวว่า รัฐบาลยังจะผ่อนปรนข้อจำกัดในการลงทุนของชาวไต้หวันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน

ประโยชน์ได้กับบริษัทไต้หวัน
เหลียนกล่าวว่า การออกไปลงทุนในจีน จะเป็นประโยชน์ในอุตสาหกรรมมากขึ้น เนื่องจากการลงทุนนี้จะช่วยให้บรรดาบริษัทของไต้หวันมีอำนาจมากขึ้นในตลาดแผ่นดินใหญ่ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน

Taiwan Semiconductor Manufacturing Co เป็นบริษัทสร้างชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันมีโรงงานอยู่ใกล้กับนครเซียงไฮ้ ซึ่งผลิตชิพขนาด 8 นิ้ว อันเป็นเทคโนโลยีที่ล้าหลังกว่าชิปที่ผลิตในชินชู ไต้หวัน

สำหรับจำนวนของกิจการที่จะเข้าไปลงทุนในจีนนั้น เหลียนกล่าวว่า ตามที่รู้คือ ตอนนี้ยังไม่มีการจำกัดโควต้าแต่อย่างใด โดยบรรดาผู้ผลิตจะได้รับอนุญาตฯ ตราบเท่าที่ไม่มีการโอนย้ายเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุดไป และห้ามโรงงานผู้ผลิตนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดไปใช้ในจีน และทิ้งเทคโนโลยีล้าหลังไว้ในไต้หวัน

AU ผู้ผลิต LCD ที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ซึ่งมีฐานผลิตในชินชู ได้ดำเนินการผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงอย่าง Gen 7.5 ใน ไท่ชุง ไต้หวัน และกำลังสร้างโรงงานผลิตด้วยเทคโนโลยี Gen 8.5 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุด สามารถสร้างแผงวงจรขนาดเท่าโต๊ะพูล ทั้งยังรองรับการใช้งานกับจอทีวีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพสูง

ส่วนของ Chi Mei นั้น มีแผนจะควบรวมกับ Innolux ในเดือนมีนาคม เพื่อผนึกกำลังไล่กวดผู้นำอย่าง AU และสร้างโรงงานผลิตเทคโนโลยี Gen 8.5 ใน เกาสง ทางใต้ของไต้หวัน

ทั้งนี้ ไต้หวันจะยังคงรักษาข้อจำกัดกับบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศจีน พิจารณาตามมูลค่าและประเภทเทคโนโลยี อาทิ การสร้างชิพขั้นสูงและการผลิตเอทิลีน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการรั่วไหล และเป็นการปกป้องสิ่งที่เป็น "เทคโนโลยีเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ" ของตนด้วย