เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล – ซินแสฮวงจุ้ยชวดมรดกก้อนมหาศาลของนีน่า หว่องเศรษฐีนีชาวฮ่องกง ผู้ล่วงลับ หลังจากศาลฮ่องกงตัดสินให้ยกมรดกทั้งหมดแก่มูลนิธิการกุศล ที่ผู้ตายก่อตั้งขึ้น
คำตัดสินดังกล่าวนับเป็นจุดพลิกผันของการต่อสู้ในศาลระหว่างครอบครัวของนีน่ากับนายโทนี ชาน ซินแสฮวงจุ้ยประจำตัว ซึ่งอ้างตัวเป็นชายคนรักของเศรษฐีนีผู้นี้ เพื่อครอบครองอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ไชน่าเคม (Chinachem) มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของนักธุรกิจหญิงคนดัง
ในคำพิพากษาของผู้พิพากษา จอห์นสัน ลัม เมื่อวันอังคาร (2ก.พ.) ได้ลงความเห็นว่า พินัยกรรมฉบับปี 2549 ซึ่งระบุยกมรดกให้นายชานนั้น เป็นพินัยกรรมที่ปลอมขึ้นมา และตัดสินให้อาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ตกเป็นสมบัติของมูลนิธิการกุศลไชน่าเคมจำกัด ซึ่งนีน่าระบุไว้ในพินัยกรรมฉบับปี 2545 ว่าเป็นผู้รับมรดกของเธอแต่เพียงผู้เดียว
นีน่ายังระบุว่า มูลนิธินี้ก่อตั้งขึ้นในลักษณะเป็นรางวัลโนเบลสำหรับจีน และยังจินตนาการด้วยว่า มีเลขาธิการสหประชาชาติ,นายกรัฐมนตรีจีน และหัวหน้าผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เป็นผู้บริหารจัดการมูลนิธิ
ทนายความของมูลนิธิมีความสุขมาก เมื่อทราบคำตัดสิน ขณะที่นาย กัง หยัน ซัม (Kung Yan-sum) น้องชายของนีน่าถือเป็นชัยชนะของครอบครัวและสังคม
อย่างไรก็ตาม ด้านทนายความของนายชานกล่าวว่า นายชานได้เตรียมยื่นอุทธรณ์แล้ว โดยยังยืนยันว่า พินัยกรรม ซึ่งกลายเป็นปัญหาขึ้นมาฉบับนี้ นีน่าเป็นคนมอบให้แก่เขาเอง จึงเป็นเรื่องประหลาด ที่บอกว่าพินัยกรรมถูกปลอมขึ้นมา
เดิมทีนั้น อาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ไชน่าเคมเคยเป็นของนายเท็ดดี้ หว่อง สามีของนีน่า ซึ่งถูกลักพาตัวและหายสาบสูญในปี 2533 นีน่าต่อสู้เพื่อแย่งมรดกกับบิดาสามีในศาลอยู่นาน จนในที่สุดก็เป็นฝ่ายชนะเมื่อปี 2548 และนั่งเก้าอี้ประธานของไชน่าเคม
ระหว่างการพิจารณาไต่สวนคดี ซึ่งดำเนินเป็นเวลา 4 เดือน นายชานได้เปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างตนกับนีน่าเริ่มขึ้น เมื่อเธอว่าจ้างให้ดูฮวงจุ้ยเมื่อปี 2535 แต่น้องสาวสองคนและน้องชายของนีน่าขึ้นให้การต่อศาลว่า นีน่ายังคงรักนายเท็ดดี้ และเชื่อมั่นว่าสามียังมีชีวิตอยู่
ในคำพิพากษาระบุว่า จากหลักฐานแสดงว่า นีน่าต้องการให้ความสัมพันธ์ของเธอกับนายชานเป็นความลับ ซึ่ง“ถูกฝังไปพร้อมกับเธอ เมื่อตายไป”
“ศาลไม่เชื่อว่าความสัมพันธ์นั้นเป็นไปในลักษณะที่จะทำให้นีน่าเตรียมยกมรดกทั้งหมดให้แก่เขา โดยไม่คำนึงถึงข้อผูกมัดและความรับผิดชอบอื่น ๆของเธอ” คำพิพากษาระบุ
คำพิพากษายังกล่าวด้วยว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่านายชานได้เตรียมการต่อสู้ทางกฎหมาย “มาสักระยะหนึ่ง ก่อนหน้ามรณกรรมของนีน่า”
นีน่า หว่องเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อเดือนเม.ย.ปี 2550 ขณะอายุ 69 ปี โดยนิตยสารฟอร์บส์ ประเมินทรัพย์สินของนีน่าในขณะนั้นว่า มากถึง 4,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจัดว่าร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของเอเชีย
อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันดีว่า นีน่าเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า แต่ละเดือนใช้เงินสำหรับตัวเองไม่ถึง 400 ดอลลาร์ นอกจากนั้น เธอยังขึ้นชื่อในเรื่องการแต่งตัวแปลกพิสดารผิดกว่าคนอื่น โดยชอบปรากฏตัวต่อสังคมด้วยชุดมินิสเกิร์ตสีสว่างสดใส และถักผมเปีย จนกระทั่งได้รับฉายาว่า สิว ถึ่ม ถึ่ม ในภาษากวางตุ้ง หรือ ลิตเติ้ล สวีตตี้