เอเยนซี- สื่อรายงานอ้างคำพูดของบุคคลที่ใกล้ชิดกับกูเกิล เมื่อวันอังคารที่ 27 ม.ค. ถึงความหวังของกูเกิลที่จะรักษาหน่วยงานหลักๆ ของตน ให้อยู่ดำเนินกิจการในจีน ประเทศที่มีตลาดอินเทอร์เน็ตใหญ่ที่สุดในโลกนี้ต่อไป ขณะบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ว่า กฎเจ้าบ้านคือสิ่งต้องคำนึงฯ
โดยแหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกล่าวว่า ขณะนี้กูเกิลกำลังเจรจากับทางการจีน เพื่อขอให้หน่วยงานวิจัยฯ และฝ่ายขายโฆษณาของตน ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ในจีนได้อยู่ต่อ รวมทั้งธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่กำลังตั้งไข่อยู่ด้วย
ทั้งสองฝ่ายต่างเสียหายจากความขัดแย้งนี้ เพราะกูเกิลเองก็อยากจะรักษาศูนย์วิจัยพัฒนาและสำนักงานขายฯ ของตน ทั้งในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองกว่างโจว ต่อไป
ด้านผู้นำจีนเอง ขณะที่ควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารฯ ทางหนึ่งก็ตระหนักว่า ถ้าต้องการจะเป็นผู้นำเทคโนโลยีโลก ก็ต้องพึ่งนวัตกรรมและความมั่งคั่งจากกูเกิลด้วย แม้กระทั่งสื่อของทางการฯ ที่ไม่ค่อยนอกลู่กับความเห็นของรัฐบาล ยังยอมเปลืองตัวออกมาเตือนว่า การพัฒนาเทคโนโลยี และเศรษฐกิจในจีนจะไปได้ช้าถ้าไม่มีกูเกิล
บรรดานักวิเคราะห์ต่างมีความเห็นที่แตกกันออกไปหลายทาง บ้างก็ว่าอย่างไรเสียกูเกิลก็คงจะเก็บกระเป๋ากลับบ้าน ขณะที่อีกกลุ่มฯ กลับเห็นว่า งานนี้ คงลงเอยด้วยการถ้อยทีถ้อยอาศัยรักษาหน้า และเหลือพื้นที่ให้กัน
โรเบิร์ต บรอดฟุต ผู้อำนวยการของบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมืองฯ ในฮ่องกง ผู้ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจบนแผ่นดินใหญ่มาเกือบ 40 ปี อยู่ในฝ่ายที่คิดว่า รัฐบาลจีนคงจะยอมงอไม่ยอมหัก เพื่อเลี้ยงกูเกิลไว้ เขาบอกว่า “จีนคงทำใจยากที่จะปิดประตูสู่นวัตกรรมบานนี้ เพราะจีนให้ความสนใจในนวัตกรรมของกูเกิลอย่างมาก มันคือสิ่งที่จีนต้องการอยู่”
เดวิด ดรัมมอนด์ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของกูเกิลกล่าว เมื่อวันจันทร์ (26 ม.ค.) ในงานสัมนานวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ทางอินเทอร์เน็ต ที่กรุงมิวนิก ประเทศเยอรมนี ว่า ข้อพิพาทประเด็นการเซ็นเซอร์ ระหว่างกูเกิลกับจีนอาจจะคลี่คลายได้ในไม่กี่สัปดาห์ หรืออาจจะเป็นเดือนๆ ก็ได้ อย่างไรก็ตาม การหารือกับรัฐบาลจีนจะเกิดขึ้นแน่ๆ
อีริค ชมิดท์ ซีอีโอกูเกิล บอกกับนักวิเคราะห์ว่า ระยะเวลาอันใกล้นี้ กูเกิลมีแผนการปรับเปลี่ยนธุรกิจหลายๆ อย่างในจีน และมีความหวังในทางจะประนีประนอม
“เราตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ว่าเราอยากจะอยู่ต่อ” ชมิดท์ กล่าวและว่า “เราชอบโอกาสทางธุรกิจในจีน และยังคิดอยากจะทำอะไรอีกหลายๆ อย่าง ซึ่งต่างจากที่เรามีอยู่”
และจากความขัดแย้งที่พิพาทกันอยู่ ส่งผลให้กูเกิลเสียฤกษ์ ขอเลื่อนเปิดตัวโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ของตนในตลาดที่มีเลขหมายผู้ใช้บริการกว่า 700 ล้านฯ นี้ ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกูเกิลเองก็ยังหวังจะขายสินค้านี้ในจีนอยู่
ทั้งนี้ ทีมขายของกูเกิลในจีนมีความสำคัญมากต่อบริษัท เพราะรายได้ส่วนใหญ่ในจีนนั้น มาจากการขายโฆษณาออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของตน นอกจากนั้น ยังรวมถึงเครือข่ายโฆษณาที่จัดวางอยู่ในเว็บไซต์อื่นๆ ด้วย
และก็เป็นยุทธศาสตร์ธุรกิจในปี 2549 ของกูเกิลเอง ที่เลือกจะเข้าไปตั้งสำนักงานและเปิดฐานเสิร์ชเอนจินในจีน ซึ่งคอยจำกัดการเข้าเว็บไซต์กูเกิลในสหรัฐฯ ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นหนทางเข้าถึงลูกค้าชาวจีนได้โดยตรง
โดยนับแต่ออกมาเดินหมากฯ รุกใส่ทางการจีนอย่างตรงๆ ไปแล้ว ดูกูเกิลจะรอบคอบมากขึ้น ด้วยมีความหวังอยู่ว่า ผู้นำจีนจะแสดงไมตรีหลังประตูซึ่งปิดอยู่นี้
บิล เกตส์ ว่า กฎของเจ้าบ้านเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงฯ
ทางด้านไมโครซอฟท์ บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งฯ ได้ออกมาให้ความเห็นถึงเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตว่า ความพยายามในการเซ็นเซอร์ทางอินเทอร์เน็ตนั้น แท้จริงแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นไปได้อย่างจำกัดมาก
โดย บิล เกตส์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ เอบีซี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า บทบาทของอินเทอร์เน็ตเป็นไปในทางสร้างสรรค์ มันคือหนทางใหม่ในการสื่อสารของผู้คน และการเซ็นเซอร์ทางอินเทอร์เน็ตของจีนก็จำกัดอยู่ในไม่กี่เรื่อง ซึ่งมันง่ายที่จะยอมรับได้
เกตส์ กล่าวว่า ในแต่ละประเทศก็มีกฎในการเซ็นเซอร์ที่ต่างกันไป โดยยกตัวอย่าง แถลงการณ์ของกลุ่มนาซีนิยม จะเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศเยอรมนี ขณะที่ในสหรัฐฯ จะถือเป็นเสรีภาพในการพูด
“เราคงต้องตัดสินใจเองว่า จะเคารพกฎของประเทศนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ก็ไม่สามารถไปทำธุรกิจในบ้านเขา” เกตส์กล่าวและว่า แนวโน้มของการเปิดรับและเปิดกว้างต่อการแบ่งปันแสดงความคิดเห็น เป็นสิ่งที่กำลังได้รับการสนับสนุนอย่างน่าพอใจอยู่แล้ว