xs
xsm
sm
md
lg

ไชน่า เซาเทิร์นอ่วม เจอม้าเหล็กไฮสปีดแย่งผู้โดยสาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รถไฟความเร็วสูงเปิดให้บริการครั้งแรกบนแดนมังกรเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2552 และกำลังแย่งผู้โดยสารจากสายการบินในประเทศ เนื่องจากบริการสะดวกรวดเร็ว - เอเจนซี่
เอเจนซี่ – ไชน่า เซาเทิร์นแอร์ไลน์สของจีนเร่งปรับกลยุทธ์ อุดช่องโหว่ผู้โดยสารบนแผ่นดินใหญ่หดหาย หันไปใช้บริการรถไฟความเร็วสูง ขณะที่สายการบินในประเทศพากันระส่ำ เพราะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างชนิดแทบสู้ไม่ได้เลย

การเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงเป็นครั้งแรกบนแดนมังกรเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา นับเป็นการเปิดศึกการแข่งขันโดยตรงระหว่างบริการขนส่งสายเลือดเดียวกันคือสายการบินในประเทศ

ไชน่า เซาเทิร์นแอร์ไลน์สเป็นสายการบินหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

แม้ได้เร่งแก้ไขข้อเสียเปรียบมาตั้งแต่รถไฟไฮสปีดใกล้เปิดให้บริการ โดยการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างฉางซา-อู่ฮั่นจากวันละ 12 เที่ยว เป็น 16 เที่ยว และเปลี่ยนมาให้บริการเพิ่มเที่ยวบินรับ-ส่ง (shuttle service)

นอกจากนั้น ยังเร่งขั้นตอนที่สนามบินให้รวดเร็วขึ้นสำหรับผู้โดยสาร ทั้งการเช็คอิน, ตรวจตราความปลอดภัย และการขอรับกระเป๋าเดินทาง เพื่อแข่งกับม้าเหล็กจ้าวความเร็ว ซึ่งผู้โดยสารไม่ต้องยื่นตั๋วเพื่อเช็คอิน หรือผ่านการคัดกรองความปลอดภัยแต่อย่างใด

ทว่ากลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง
นายเซี่ย ปิน เลขาบริษัทของไชน่า เซาเทิร์นแอร์ไลน์สระบุว่า ในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังจากรถไฟด่วนเปิดให้บริการ ยอดผู้โดยสารของไชน่า เซาเทิร์น ที่เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟความเร็วสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดขายตั่วที่นั่งลดลงร้อยละ7สำหรับเส้นทางฉางซา และราคาตั๋วยังลดลงกว่าร้อยละ10 โดยเฉลี่ยสำหรับเส้นทางดังกล่าวอีกด้วย

อีกทั้งราคาตั๋วเครื่องบินในขณะนี้ยังขายถูกกว่าราคาตั๋วรถไฟ โดยตั๋วรถไฟสำหรับการเดินทาง 2 ชั่วโมง 15 นาทีมีราคา 312 หยวน ขณะที่ตั๋วเครื่องบินราคาตกลงถึง 210 หยวน ซึ่งขึ้นอยู่กับวันที่ออกเดินทาง

“บางที ผู้โดยสารอาจกำลังเห่อบริการรถไฟแบบใหม่ และอยากลองขึ้นดูก็ได้นะครับ” นายเซี่นยังมองในแง่ดี

รถไฟไฮสปีดสายกว่างโจว-อู่ฮั่นให้บริการวิ่งวันละ 2 ขบวน นอกจากนั้น ยังมีขบวนที่แวะจอดที่เมืองฉางซา และเมืองอื่น ๆ ในมณฑลกว่างโจว, เหอหนัน และเหอเป่ย

อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินกว่างโจว-อู่ฮั่นประสบปัญหาเรื่องผู้โดยสารน้อยกว่า เนื่องจากระยะเวลาการบินระหว่างกว่างโจว-อู่ฮั่นยาวว่าการบินไปฉางซา ซึ่งตรงกับการคาดการณ์ของ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ที่ระบุว่า เที่ยวบินที่ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงจะถูกม้าเหล็กความเร็วสูงตีกระจุยมากที่สุด ส่วนเที่ยวบินที่เดินทางนานกว่าหนึ่งชั่วโมงจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า

มาถึงตอนนี้ ไชน่า เซาเทิร์นจึงหันมาใช้กลยุทธ์ประสานความร่วมมือกับกระทรวงการรถไฟ โดยกำลังศึกษาแผนการขายตั๋วเครื่องบินควบตั๋วรถไฟ ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้กันทั่วไปในยุโรป เพื่อนำมาใช้ในแผ่นดินใหญ่ ลดผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม นายเคลวิน เลานักวิเคราะห์ด้านการขนส่งของDaiwa Securities SMBC มองว่า หากเครือข่ายเส้นทางรถไฟความเร็วสูงซ้อนทับกับเส้นทางการบินในประเทศ วิธีนี้ก็ใช้ไม่ได้ผล

เพื่อกู้สถานการณ์ ไชน่า เซาเทิร์นยังจะเพิ่มการพัฒนาเส้นทางบินระหว่างประเทศไปย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย จากปัจจุบัน ที่พึ่งรายได้ร้อยละ 80 จากการการบินในประเทศ

นอกจากไชน่า เซาเทิร์นแล้ว สายการบินแอร์ไชน่า และไชน่า อิสเทิร์น แอร์ไลน์ ก็น่าจะถูกมรสุมด้วยเช่นกัน เมื่อเส้นทางรถไฟด่วนสายปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ดำเนินการเสร็จ ซึ่งอย่างเร็วสุดน่าจะเป็นปีหน้า โดยเส้นทางบินปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ ได้มีการเพิ่มเที่ยวบินรับ-ส่งเมื่อปี 2550 กว่าวันละ 40 เที่ยวบิน ส่วนใหญ่เป็นบริการของไชน่า อิสเทิร์น, แอร์ไชน่า และฉางไห่แอร์ไลน์ส

อย่างไรก็ตาม วันใดที่ม้าเหล็กจ้าวความเร็วเชื่อมเครือข่ายให้บริการไปยังเมืองต่างๆ ย่นเวลาการเดินทางเหลือแค่ 5 ชั่วโมงแล้ว บริการ shuttle service ของสายการบินก็คงต้องเศร้าอีกวาระ

แต่นายเลามองว่า สถานการณ์อาจไม่เลวร้ายนัก หากสายการบินมีการยืดหยุ่นเรื่องตั๋วกว่าเดิม เช่น หากผู้โดยสารพลาดเที่ยวบินที่ระบุในตั๋ว ก็ควรให้ขึ้นเที่ยวบินต่อไปได้ นอกจากนั้น สายการบินในแผ่นดินใหญ่ควรปรับปรุงเรื่องการตรงต่อเวลา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่จะรักษาลูกค้าไว้

กำลังโหลดความคิดเห็น