กระทรวงวัฒนธรรม สถานทูตจีน และศูนย์จีนศึกษา จุฬาฯ โดยการสนับสนุนของธนาคารกสิกรไทย ร่วมกันจัดเทศกาลภาพยนตร์และการแสดงสุดยอดศิลปวัฒนธรรมจีน เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 60 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจัดฉายภาพยนตร์ที่หาดูได้ยาก 6 วัน 6 เรื่อง ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟเอ็กซ์ (SFX) ชั้น 6 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ระหว่างวันที่ 30 กันยายน-5 ตุลาคมนี้ เวลา 19.30 น. โดยภาพยนตร์ทุกเรื่องพากย์จีน พร้อมซับไตเติ้ลภาษาไทย
Crows and Sparrows
วันพุธที่ 30 กันยายน
ความยาว 117 นาที
ปี พ.ศ.2492
เป็นภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในการนำมาฉายในครั้งนี้ ด้วยฟิล์มขาวดำต้นฉบับ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2492 หรือมีอายุกว่า 60 ปี เป็นหนังตลกแนวสัจจะนิยมใหม่ (Neo-realist Comedy) กำกับโดย เจิ้งจวินหลี่ นำออกฉายในปีใหม่ปีแรกของการสถาปนาจีนเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน เรื่องราวเกี่ยวกับความขัดแย้งในวิถีชีวิตของคนเมืองในช่วงที่พรรคคอมมิวนิสต์มีแนวโน้มที่จะชนะเหนือพรรคก๊กมินตั๋ง สะท้อนเหตุการณ์การรวมตัวเพื่อต่อต้านการคดโกงของเจ้าของที่ในเซี่ยงไฮ้ ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่กำลังเข้มข้น
Third Sister Liu
วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม
ภาพยนตร์เพลง
ความยาว 117 นาที
ปี พ.ศ.2504
ผู้กำกับ ซูหลี่
เรื่องราวของหญิงสาวชาวนาที่มุ่งมั่นที่จะรวบรวมชาวบ้านเพื่อต่อต้านเจ้าของที่ดินที่ละโมบโลภมาก โดยการสร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวบ้านผ่านบทเพลง ซึ่งก็ได้สร้างความประทับใจชาวบ้าน พร้อมแรงดึงดูดความสนใจจากชายหนุ่มคนหนึ่งด้วย ถ่ายทอดผ่านบทเพลงที่มีเอกลักษณ์ประจำถิ่นอันไพเราะและทิวทัศน์อันสวยงามของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง มณฑลกว่างซี เป็นหนังที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศจีนอย่างกว้างขวาง ด้วยเพลงประกอบที่ถือเป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่นที่น่าสนใจ อย่างที่แตกต่างไปจากหนังประเภทเดียวกันของฮ่องกง (เช่น จอมใจจักรพรรดิ ม่านประเพณี)
Romance on Lushan Mountain
วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม
ภาพยนตร์ชีวิตแนวโรแมนติก
ความยาว 90 นาที
ปี พ.ศ. 2523
กำกับโดย หวงจู่ม๋อ
เรื่องราวของโจวหยุน หญิงสาวเชื้อสายจีน-อเมริกัน ที่กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดของบิดา กับเกิ่งฮั๋ว นักเรียนที่กำลังจะสอบเข้าวิทยาลัยด้วยกัน และด้วยอุดมการณ์ทางการเมืองที่ฝั่งรากลึกในช่วงทศวรรษที่ 70-80 ทำให้บิดาของทั้งสองที่แม้จะรู้จักกัน แต่ก็มีความเห็นด้านการเมืองที่ต่างกัน ความรักของทั้งคู่จึงมีอุปสรรค ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่มีเนื้อเรื่องคล้ายกับหนังเรื่อง โรมิโอและจูเลียต แต่ยังได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่า เป็นหนังที่ยืนโรงฉายได้ยาวนานที่สุดในโลก นับตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2523 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
Cell Phone
วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม
ความยาว 107 นาที
ปี พ.ศ. 2546
กำกับโดย เฝิงเสี่ยวกัง
นับเป็นหนังจีนที่ทำรายได้สูงที่สุดในประเทศ เมื่อปี 2546 สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากเทคโนโลยีและชีวิตสมัยใหม่บนความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดของสังคมจีนแบบเดิม เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของชายหญิงคู่หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในอาชีพ คนหนึ่งเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ อีกคนเป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ แต่ความสัมพันธ์ของครอบครัวทั้งคู่ต้องร้าวฉานลง เมื่อสัมพันธ์ลับของทั้งสองที่ถูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือถูกเปิดเผยออกมา ความสำเร็จของหนังเรื่องนี้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนังตั้งใจที่จะจัดการกับผลกระทบอันร้ายแรงอันเนื่องมาจากความเจริญทางด้านเทคโนโลยี
Jasmine Women
วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม
ภาพยนตร์ชีวิต
ความยาว 130 นาที
พ.ศ. 2549
ผู้กำกับ โฮ๋วหย่ง
เป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงด้านการกำกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมและฉากที่สวยงาม โดยถือเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จในการทำให้ชีวิตทางการเมืองกลายเป็นเรื่องเปิดเผยร่วมสมัยได้ Jasmine Women บอกเล่าเรื่องราวของหญิง 3 คน 3 รุ่น ในมหานครเซี่ยงไฮ้ คือ ม่อ ในทศวรรษ 1930 ลี่ ในทศวรรษ 1950 และฮวา ในทศวรรษ 1980 ตัวเอกทั้งสามต้องเผชิญกับปัญหาความรัก เซ็กซ์ และครอบครัวในเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละช่วงเวลาดำเนินไปควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทางการเมือง และมีม่านธรรมเนียมของสังคมควบคุมพฤติกรรมอย่างเข้มงวด แต่แต่ละคนก็แข็งขืนต่อต้าน จนเกิดความผิดพลาดในชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า รุ่นแล้วรุ่นเล่า แม้ว่าความโดดเด่นของบทจะอยู่ที่ตัวละครหญิงสามคนก็ตาม แต่ตัวแสดงประกอบอื่น ๆ ก็มีฝีมือไม่น้อยกว่ากันเลย และทั้งหมดต่างก็ช่วยกันดึงเอาจุดที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ไปรวมศูนย์อยู่ที่ชีวิตด้านจิตวิญญาณและอารมณ์ของหญิงสาว หนังเรื่องนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในการทำให้ชีวิตทางการเมืองกลายเป็นเรื่องเปิดเผยร่วมสมัยได้
Love, Come Back
วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม
ภาพยนตร์ชีวิต
ความยาว 90 นาที
ปี พ.ศ. 2551
ผู้กำกับ เฉินจวิน
หนังที่บอกเล่าเรื่องราวถึงการเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับเงื่อนไขที่แตกต่างในสถานะการณ์ กฎเกณฑ์ และเสรีภาพที่มาพร้อมกับชีวิตใหม่ในสังคมเมืองหลวง โดยแนวเรื่องคล้ายนิทานเรื่อง The Prince and the Pauper (เจ้าชายกับยาจก) เมื่อเหมาเหมา เด็กหนุ่มผู้ร่ำรวยจากปักกิ่งที่ใช้เวลาสูญเปล่าไปกับการเล่นเกมออนไลน์ ถูกพ่อส่งกลับไปอยู่ที่มองโกเลียใน ที่ซึ่งเขาเคยใช้ชีวิตในวัยเด็ก เขาต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับเงื่อนไขที่แตกต่าง และต้องเปลี่ยนมุมมองของชีวิตใหม่ ในขณะที่ปาเท่อเอ่อร์ เด็กหนุ่มบ้านนอกจากมองโกเลียใน ก็ได้สลับเข้ามาใช้ชีวิตคล้ายกับเหมาเหมาในกรุงปักกิ่ง ทำให้เขาก็ต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับกฎเกณฑ์ และเสรีภาพที่มาพร้อมกับชีวิตใหม่
ผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่งเข้าชมภาพยนตร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ได้ที่ ส่วนประชาสัมพันธ์ ธนาคารกสิกรไทย โทร. 0 2470 2653-8
Crows and Sparrows
วันพุธที่ 30 กันยายน
ความยาว 117 นาที
ปี พ.ศ.2492
เป็นภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในการนำมาฉายในครั้งนี้ ด้วยฟิล์มขาวดำต้นฉบับ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2492 หรือมีอายุกว่า 60 ปี เป็นหนังตลกแนวสัจจะนิยมใหม่ (Neo-realist Comedy) กำกับโดย เจิ้งจวินหลี่ นำออกฉายในปีใหม่ปีแรกของการสถาปนาจีนเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน เรื่องราวเกี่ยวกับความขัดแย้งในวิถีชีวิตของคนเมืองในช่วงที่พรรคคอมมิวนิสต์มีแนวโน้มที่จะชนะเหนือพรรคก๊กมินตั๋ง สะท้อนเหตุการณ์การรวมตัวเพื่อต่อต้านการคดโกงของเจ้าของที่ในเซี่ยงไฮ้ ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่กำลังเข้มข้น
Third Sister Liu
วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม
ภาพยนตร์เพลง
ความยาว 117 นาที
ปี พ.ศ.2504
ผู้กำกับ ซูหลี่
เรื่องราวของหญิงสาวชาวนาที่มุ่งมั่นที่จะรวบรวมชาวบ้านเพื่อต่อต้านเจ้าของที่ดินที่ละโมบโลภมาก โดยการสร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวบ้านผ่านบทเพลง ซึ่งก็ได้สร้างความประทับใจชาวบ้าน พร้อมแรงดึงดูดความสนใจจากชายหนุ่มคนหนึ่งด้วย ถ่ายทอดผ่านบทเพลงที่มีเอกลักษณ์ประจำถิ่นอันไพเราะและทิวทัศน์อันสวยงามของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง มณฑลกว่างซี เป็นหนังที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศจีนอย่างกว้างขวาง ด้วยเพลงประกอบที่ถือเป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่นที่น่าสนใจ อย่างที่แตกต่างไปจากหนังประเภทเดียวกันของฮ่องกง (เช่น จอมใจจักรพรรดิ ม่านประเพณี)
Romance on Lushan Mountain
วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม
ภาพยนตร์ชีวิตแนวโรแมนติก
ความยาว 90 นาที
ปี พ.ศ. 2523
กำกับโดย หวงจู่ม๋อ
เรื่องราวของโจวหยุน หญิงสาวเชื้อสายจีน-อเมริกัน ที่กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดของบิดา กับเกิ่งฮั๋ว นักเรียนที่กำลังจะสอบเข้าวิทยาลัยด้วยกัน และด้วยอุดมการณ์ทางการเมืองที่ฝั่งรากลึกในช่วงทศวรรษที่ 70-80 ทำให้บิดาของทั้งสองที่แม้จะรู้จักกัน แต่ก็มีความเห็นด้านการเมืองที่ต่างกัน ความรักของทั้งคู่จึงมีอุปสรรค ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่มีเนื้อเรื่องคล้ายกับหนังเรื่อง โรมิโอและจูเลียต แต่ยังได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่า เป็นหนังที่ยืนโรงฉายได้ยาวนานที่สุดในโลก นับตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2523 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
Cell Phone
วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม
ความยาว 107 นาที
ปี พ.ศ. 2546
กำกับโดย เฝิงเสี่ยวกัง
นับเป็นหนังจีนที่ทำรายได้สูงที่สุดในประเทศ เมื่อปี 2546 สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากเทคโนโลยีและชีวิตสมัยใหม่บนความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดของสังคมจีนแบบเดิม เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของชายหญิงคู่หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในอาชีพ คนหนึ่งเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ อีกคนเป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ แต่ความสัมพันธ์ของครอบครัวทั้งคู่ต้องร้าวฉานลง เมื่อสัมพันธ์ลับของทั้งสองที่ถูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือถูกเปิดเผยออกมา ความสำเร็จของหนังเรื่องนี้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนังตั้งใจที่จะจัดการกับผลกระทบอันร้ายแรงอันเนื่องมาจากความเจริญทางด้านเทคโนโลยี
Jasmine Women
วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม
ภาพยนตร์ชีวิต
ความยาว 130 นาที
พ.ศ. 2549
ผู้กำกับ โฮ๋วหย่ง
เป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงด้านการกำกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมและฉากที่สวยงาม โดยถือเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จในการทำให้ชีวิตทางการเมืองกลายเป็นเรื่องเปิดเผยร่วมสมัยได้ Jasmine Women บอกเล่าเรื่องราวของหญิง 3 คน 3 รุ่น ในมหานครเซี่ยงไฮ้ คือ ม่อ ในทศวรรษ 1930 ลี่ ในทศวรรษ 1950 และฮวา ในทศวรรษ 1980 ตัวเอกทั้งสามต้องเผชิญกับปัญหาความรัก เซ็กซ์ และครอบครัวในเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละช่วงเวลาดำเนินไปควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทางการเมือง และมีม่านธรรมเนียมของสังคมควบคุมพฤติกรรมอย่างเข้มงวด แต่แต่ละคนก็แข็งขืนต่อต้าน จนเกิดความผิดพลาดในชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า รุ่นแล้วรุ่นเล่า แม้ว่าความโดดเด่นของบทจะอยู่ที่ตัวละครหญิงสามคนก็ตาม แต่ตัวแสดงประกอบอื่น ๆ ก็มีฝีมือไม่น้อยกว่ากันเลย และทั้งหมดต่างก็ช่วยกันดึงเอาจุดที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ไปรวมศูนย์อยู่ที่ชีวิตด้านจิตวิญญาณและอารมณ์ของหญิงสาว หนังเรื่องนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในการทำให้ชีวิตทางการเมืองกลายเป็นเรื่องเปิดเผยร่วมสมัยได้
Love, Come Back
วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม
ภาพยนตร์ชีวิต
ความยาว 90 นาที
ปี พ.ศ. 2551
ผู้กำกับ เฉินจวิน
หนังที่บอกเล่าเรื่องราวถึงการเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับเงื่อนไขที่แตกต่างในสถานะการณ์ กฎเกณฑ์ และเสรีภาพที่มาพร้อมกับชีวิตใหม่ในสังคมเมืองหลวง โดยแนวเรื่องคล้ายนิทานเรื่อง The Prince and the Pauper (เจ้าชายกับยาจก) เมื่อเหมาเหมา เด็กหนุ่มผู้ร่ำรวยจากปักกิ่งที่ใช้เวลาสูญเปล่าไปกับการเล่นเกมออนไลน์ ถูกพ่อส่งกลับไปอยู่ที่มองโกเลียใน ที่ซึ่งเขาเคยใช้ชีวิตในวัยเด็ก เขาต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับเงื่อนไขที่แตกต่าง และต้องเปลี่ยนมุมมองของชีวิตใหม่ ในขณะที่ปาเท่อเอ่อร์ เด็กหนุ่มบ้านนอกจากมองโกเลียใน ก็ได้สลับเข้ามาใช้ชีวิตคล้ายกับเหมาเหมาในกรุงปักกิ่ง ทำให้เขาก็ต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับกฎเกณฑ์ และเสรีภาพที่มาพร้อมกับชีวิตใหม่
ผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่งเข้าชมภาพยนตร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ได้ที่ ส่วนประชาสัมพันธ์ ธนาคารกสิกรไทย โทร. 0 2470 2653-8