เอเจนซี – รัฐบาลปักกิ่งบัญชาตรวจสอบการทุ่มตลาดสินค้ารถยนต์และเนื้อไก่นำเข้าจากสหรัฐฯ เหตุสงสัยมีการอุดหนุน สร้างแรงแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม และทำร้ายอุตสาหกรรมในประเทศ แต่ออกตัวไม่ได้ “แก้แค้น” ที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้ายางรถยนต์จีน เพียงแค่ดำเนินการไปตามปกติเนื่องจากมีผู้ประกอบการจีนกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
กระทรวงพาณิชย์จีนระบุผ่านเว็บไซต์เมื่อวันอาทิตย์ (13 ก.ย.) ว่า ทางกระทรวงจะเริ่มตรวจสอบการทุ่มตลาดของผลิตภัณฑ์เนื้อไก่และรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐฯ หลังจากผู้ประกอบการภายในประเทศเรียกร้องให้รัฐบาลตอบโต้พฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของสหรัฐฯ ที่มีการอุดหนุน ทุ่มตลาด และละเมิดกฎการค้าขององค์การการค้าโลก (WTO)
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของจีนดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีทุ่มตลาดยางรถยนต์นำเข้าจากจีนเพิ่ม ซึ่งจีนระบุว่า การกระทำของสหรัฐฯ เป็นมาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่ง “จีนรู้สึกไม่พอใจและคัดค้านการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ อย่างรุนแรง” ตามที่กระทรวงพาณิชย์ระบุ
โดยเมื่อวันศุกร์ (11 ก.ย.) ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ได้ลงนามเห็นชอบในมติปรับเพิ่มภาษีสินค้านำเข้ายางรถยนต์โดยสารและยางรถบรรทุกขนาดเล็กทั้งหมดจากประเทศจีนเป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อเยียวยาความเสียหายของตลาดที่เกิดจากสินค้านำเข้าราคาถูกของจีนที่ล้นทะลักเข้ามา
ภายใต้มติดังกล่าว สหรัฐฯ จะปรับขึ้นภาษีนำเข้ายางจาก 4% เพิ่มเป็น 35% ในปีแรก 30% ในปีที่สอง และลดเหลือ 25% ในปีที่สาม ซึ่งเป็นอัตราต่ำกว่าที่คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ (USITC) เสนอไว้ที่ 55% หลังจากสภาพแรงงานเหล็กกล้าโวยว่า ตั้งแต่ปี 2547 สินค้านำเข้ายางจากจีนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว ส่งผลให้โรงงานมะกันปิดกิจการ คนตกงานถึง 5,100 อัตรา
ด้านเจียง อี๋ว์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศกล่าวถึงการตัดสินของสหรัฐฯในการเพิ่มภาษียางจีนว่า เป็นการส่งสัญญาณลัทธิกีดกันทางการค้าที่อันตรายก่อนการประชุมจี 20 จะเริ่มขึ้น
“การตัดสินใจนี้จะทำลายความร่วมมือทางการค้าและการเงินระหว่างจีนและสหรัฐ และไม่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจโลกให้เดินหน้าไปสู่การฟื้นตัวในเร็ววัน” เจียงอี๋ว์กล่าวในแถลงการณ์ที่โพสต์ลงในเว็บไซต์
อนึ่ง การตัดสินใจของโอบามามีขึ้นก่อนการประชุม จี20 ซึ่งจะมีขึ้นที่เมืองพิตต์สเบิร์กของสหรัฐฯ ในวันที่ 24-25 กันยายนนี้ และประธานาธิบดี หู จิ่นเทาก็จะเดินทางมาร่วมประชุมด้วย