เอเจนซี--ผู้กำกับภาพยนตร์มือดีแห่งฝรั่งเศส Jean-Jacques Annaud เผยแผนสร้างภาพยนตร์ ซึ่งจะดัดแปลงจากนวนิยาย "ขายดีที่สุด" ของแดนมังกรคือ Wolf Totem
Annaud ประกาศแผนสร้าง Wolf Totem ฉบับจอเงินเมื่อวันอังคาร(18 ส.ค.) เขาเพิ่งกลับจากตระเวนสำรวจสถานที่ต่างๆในมองโกเลียในซึ่งจะเป็นฉากภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นโปรเจ็ตภาพยนตร์เรื่องแรกในจีนของเขา
Annaud สร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักในวงการภาพยนตร์โลก จากภาพยนตร์ อาทิ "Two Brothers", "The Bear", "The Lover" และ "The Name of the Rose"
Wolf Totem ประพันธ์โดย หลี่ว์ เจียหมิน (吕嘉民) ภายใต้นามปากกา เจียง หรง (姜戎) ชนะรางวัล Man Asian Literary Prize เมื่อปี 2549 เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 20 ปีต้นๆจากกรุงปักกิ่ง ที่ถูกส่งไปใช้แรงงานยังเขตชายแดนในเขตปกคอรงตัวเองมองโกเลียในปี 2510 แห่งยุคปฏิวัติวัฒนธรรม และการดิ้นรนระหว่างชีวิตแบบประเพณีและชีวิตแบบสมัยใหม่
“สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผมในนวนิยายเรื่องนี้ คือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ และที่สำคัญคือเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ได้ค้นพบความศิวิไรซ์ ซึ่งเป็นใจกลางของภาพยนตร์หลายเรื่องของผม” Annaud
เมื่อ Wolf Totem ออกวางตลาดในเมืองจีนเมื่อปี 2547 ก็ได้รับการต้อนรับชนิดที่เรียกว่า “ฮ็อตฮิตติดตลาด” จนได้รับตราประทับ "Best Seller" โดยฉบับลิขสิทธิ์ทำยอดขาย 2.6 ล้านเล่ม นอกจากนี้ฉบับละเมิดลิขสิทธิ ยังมียอดขายกว่า 17 ล้านเล่ม ขณะนี้ มีการแปล Wolf Totem ออกเป็นพากษ์ภาษาต่างๆหลายภาษารวมทั้งภาษาอังกฤษ
สำหรับผู้ประพันธ์ เจียง หรง นั้น ก็มีชะตากรรมเช่นเดียวกับอดีตนักโทษการเมืองอื่นๆ เขาถูกจำคุกฐานมีส่วนร่วมในการการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ปี 2532 (1989)
ผู้กำกับฯ Annaud เผยอีกว่า ขณะนี้มีบริษัทสร้างภาพยนตร์สัญชาติจีนคือ Beijing Forbidden City Corp เข้ามาพูดคุยขอร่วมสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย สำหรับตอนนี้เขาเพิ่งลงมือเขียนบทภาพยนตร์ และคาดว่าจะเริ่มสร้างหนังเรื่องนี้ได้ในปี 2554
“การเขียนบทภาพยนตร์จากนวนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องยากทีเดียว ผมต้องการเวลาอย่างน้อย 6 เดือนสำหรับงานนี้”
นอกจากนี้ ผู้กำกับแดนน้ำหอมยังเปิดใจว่าเขากำลังมองหาลู่ทางทำงานในจีน สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทางการต่อภาพยนตร์ที่เขาสร้างเรื่อง "Seven Years in Tibet" ซึ่งแสดงความเห็นใจทะไล ลามะนั้น ก็เป็นอดีตที่ผ่านไปแล้ว
“ผมได้บอกพวกเขาไปตรงๆว่าผมทำหนังเรื่องนั้นด้วย แต่พวกเขาก็บอกผมว่าสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว สิ่งเหล่านั้นเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้วเช่นกัน” Annaud กล่าว