ไชน่า เดลี่ – สหรัฐฯ ยินยอมผ่อนปรนระเบียบการค้า พร้อมสัญญาว่าจะส่งออกสินค้าไฮ-เทคไปยังตลาดในจีน นักวิเคราะห์เชื่อ มูลค่าสินค้าไฮ-เทคจะส่งผลให้ดุลการค้าระหว่าง 2 ชาติมีความสมดุลมากขึ้น
นายหวัง ฉีซัน รองนายกรัฐมนตรีของจีน ยังกล่าวอีกว่า การเจรจายุทธศาสตร์และเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างยิ่ง
การค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ได้เริ่มขึ้นหลังจากจีนเปิดประเทศสู่โลกภายนอก และมูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อ30 ปีที่แล้วที่มูลค่าการค้าอยู่ที่ปีละ 2,500 ล้านเหรียญเมื่อ ปัจจุบันมูลค่าการค้าจีน-สหรัฐฯ อยู่ที่ 333,700 ล้านเหรียญ
แม้มูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศจะสูงยิ่ง แต่สหรัฐฯ กลับไม่รู้สึกยินดีเนื่องจากต้องประสบภาวะขาดดุลการค้าแก่จีนอยู่เสมอ โดยสหรัฐฯ โทษว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากจีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนต่ำกว่าความเป็นจริง จนทำให้สินค้าจากจีนทะลักเข้าไปในตลาดสหรัฐฯ มากกว่าที่สินค้าจากสหรัฐฯ ไหลเข้าตลาดจีน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การที่สหรัฐฯ ยอมส่งออกสินค้าไฮ-เทคไปยังตลาดของจีน จะช่วยทำให้ดุลการค้าระหว่าง 2 ประเทศนี้มีความสมดุลมากขึ้น
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯ ก็ยอมรับว่า ความพยายามของจีนที่จะปฏิรูประบบตลาดมีความก้าวหน้ามาก ซึ่งจะส่งผลให้การรับรองสถานะประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบการตลาดของจีนมีความรวดเร็วขึ้นด้วย
ด้าน หม่า ซิ่วหงรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายต่างรู้ดีว่าความพยายามของจีนที่จะเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจ จากที่ถูกวางแผนโดยรัฐให้เป็นเศรษฐกิจแบบใช้การตลาดนำ มีความก้าวหน้ามากเพียงใดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
“ยังมีอุปสรรคบางอย่างที่ต้องขจัดออกไป และเราจำเป็นต้องมาอภิปรายกันอย่างจริงจัง แต่ก็หวังว่าปัญหาต่างๆ ระหว่างสองฝ่ายจะได้รับการแก้ไขภายในเร็ววัน”
ขณะที่ นายหวัง ซึ่งเป็นประธานบนโต๊ะเจรจาลู่ทางด้านเศรษฐกิจ ร่วมกับนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่า นอกจากทั้งสองชาติจะเห็นพ้องกันในเรื่องต่อต้านการกีดกันทางการค้าแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังตกลงว่าจะเพิ่มตัวแทนจากชาติกำลังพัฒนาในสถาบันที่มีอำนาจตัดสินเรื่องการเงินระหว่างประเทศด้วย
ทั้งสหรัฐฯ และจีน ยังได้ตกลงว่าทั้งสองฝ่ายจะจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหาแนวทางจัดการปัญหาทางด้านการเงินและหาแนวทางทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว
ผลจากการเจรจายุทธศาสตร์และเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทั้งสองฝ่ายได้ข้อตกลงว่าจะลดความแตกต่างระหว่างกัน ทั้งในด้านสมดุลทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และวางรากฐานเพื่อความร่วมมือในอนาคต
ทั้ง 2 ฝ่ายยังได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และความร่วมมือด้านพลังงาน และยังได้ออกแถลงการณ์ร่วม และร่างแผนความสำเร็จร่วมกันด้วย
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์อย่าง นายจอห์น ฟริสบี ประธานสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีน ก็ได้ชื่นชมความสำเร็จของการเจรจาในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสหรัฐฯและจีนมีความสำคัญต่อทั้งโลก
“เป็นการยากที่ทั้ง 2 ชาติจะประสบความสำเร็จในด้านเศรษฐกิจและประเด็นสำคัญอื่นๆ โดยปราศจากความร่วมมือและความสัมพันธ์ในเชิงสร้างสรรค์” นายฟริสบี ระบุ