xs
xsm
sm
md
lg

นามิเบียสาวหลักฐานอื้อฉาว "CTX" ถึงจีน มังกรใช้มุขเดิมบล็อกอินเทอร์เน็ตปิดข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หู ไห่เฟิง วัย 38 ปี  บุตรชายคนโตของ ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ผู้บริหารใหญ่ของ Nuctech บริษัทเครื่องสแกนชั้นนำของรัฐบาลจีน-ภาพเอเจนซี
เอแจนซี--ศาลในวินด์ฮุกเมืองหลวงประเทศนามิเบีย เปิดห้องไต่สวนคดีทุจริตสัญญาซื้อขายเครื่องสแกนเพื่อความปลอดภัย โดยมีจำเลยสามคนที่ต้องมาให้ปากคำเป็นพยานในการไต่สวนนัดแรกเมื่อวันพุธ(22 ก.ค.)

กรณีนี้ไม่เพียงเป็นคดีทุจริตใหญ่ระดับชาติของนามิเบียแห่งแดนกาฬทวีป แต่การไต่สวนคดีนี้ยังสะเทือนข้ามทวีปไปถึงจีน ถึงกับรัฐบาลต้องงัดมุขเก่ามาใช้ คือบล็อกอินเทอร์เนตที่อาจเข้าถึงข่าวดังกล่าว เนื่องจากกรณีอื้อฉาวนี้กำลังถูกสาวไปถึงลูกชายคนโตของประธานาธิบดีหู จิ่นเทา คือ หู ไห่เฟิง อดีตประธานบริษัทนุกเทค (Nuctech Company Limited) คู่สัญญาที่ขายเครื่องสแกนให้นามิเบีย สำหรับติดตั้งในด่านตรวจศุลกากรทั่วประเทศนามิเบีย

สำหรับจำเลยทั้งสามกำลังถูกสอบปากคำในข้อกล่าวหารับสินบนสำหรับการช่วยนุกเทคชนะการประมูลผลประโยชน์มหาศาล 55.3 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนพฤษภาคม ปี 2551 หนึ่งในนั้นคือนาย หยาง ฟาน วัย 39 ปี ผู้แทนประจำภูมิภาคแอฟริกาของบริษัทนุกเทค ส่วนจำเลยอีกสองคนเป็นชาวนามิเบียน

นาง มาร์ธา อิมัลวา (Martha Imalwa) อัยการสูงสุดของนามิเบีย เผยว่าเธอได้เดินทางไปถึงกรุงปักกิ่งเพื่อขอสัมภาษณ์หู ไห่เฟิง ในฐานะพยาน มิใช่ฐานะผู้ต้องสงสัยในกรณีอื้อฉาวซีทีเอ็กซ์นี้

สำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อและติดตั้งเครื่องสแกนนี้มาจากเงินกู้ช่วยเหลือที่รัฐบาลจีนรับรองให้แก่นามิเบียโดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องซื้อเครื่องสแกนจากนุกเทค

รัฐบาลนามิเบียจ่ายเงินราว 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่นุกเทคในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งอัยการชี้ว่าเงินทั้งหมดถูกยักย้ายถ่ายโอนอย่างรวดเร็วไปยังบริษัทสัญชาตินามิเบียนที่ถูกระบุว่าเป็นบริษัทที่ปรึกษาของนุกเทค จากนั้นเงินก้อนนี้ก็ถูกแบ่งให้แก่นายหยาง และจำเลยชาวนามิเบียนอีกสองคน

กรณีอื้อฉาวนี้แดงขึ้นมาเนื่องจากกฎหมายฟอกเงินฉบับใหม่ระบุให้บรรดาธนาคารนามิเบียนรายงานการถ่ายโอนเงินก้อนใหญ่ โดยคณะอัยการชี้ว่าจำเลยทั้งสามในกรณีอื้อฉาวซีทีเอ็กซ์นามิเบีย ได้ใช้จ่ายเงินตามรายการจับจ่ายซื้อสินค้าที่ยาวเหยียด

ด้านนุกเทคเสนอว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยนามิเบียสะสางกรณีอื้อฉาวนี้แต่ไม่กล่าวอะไรต่อสาธารณะ

บริษัทนุกเทคจัดตั้งขึ้นในปี 2540 เป็นบริษัทในเครือของ ชิงหัว โฮลดิ้งส์ (Tsinghua Holedings)ของมหาวิทยาลัยชิงหัว นุกเทคมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่ง เป็นผู้ผลิตเครื่องสแกนเทคโนโลยีตรวจสอบด้วยเครื่องเอ็กซ์เรย์ที่ใช้ตามสนามบิน หน่วยศุลกากร และจุดการจราจรต่างๆ หู ไห่เฟิง วัย 38 ปี บุตรชายของประธานาธิบดีหู จิ่เทา เป็นประธานนุกเทคจนถึงปีที่แล้ว โดยเขาออกจากตำแหน่งประธานนุกเทคเมื่อได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ของชิงหัว โฮลดิ้งส์ สำหรับชิงหัว โฮลดิ้งส์นี้เป็นวิสาหกิจรัฐ นอกจากดำเนินกิจการนุกเทคแล้ว ยังมีธุรกิจอื่นๆอีกราว 30 ราย

ทั้งนี้ทั้งประธานาธิบดีหู และหูผู้ลูก ต่างก็เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยชิงหัว มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนที่มีชื่อเสียงด้านการศึกษาเทคโนโลยี

นุกเทคทะยานขึ้นเป็นผู้ป้อนเครื่องมืออุปกรณ์สแกนเพื่อความปลอดภัยระดับโลกในเวลาอันรวดเร็ว ป้อนผลิตภัณฑ์ให้แก่ประเทศต่างๆราว 50 ชาติ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา และในปี 2549 นุกเทคยังชนะการประมูลสัญญาติดตั้งเครื่องสแกนชั้นนำเพื่อตรวจสอบวัตถุเหลวที่อาจมีอันตรายในสนามบิน 147 แห่ง ทั่วประเทศจีน

เครื่องสแกนของนุกเทคได้รับการชื่นชม เป็นตัวเลือกแทนผลิตภัณฑ์จากออสเตรเลียและนอรเวย์ อย่างไรก็ตาม ต่างชาติหันมาจับตามองวิธีปฏิบัติทางธุรกิจของนุกเทคมากขึ้น
หนึ่งในผลิตภัณฑ์ Nuctech
โดยสหภาพยุโรป หรืออียูกำลังไต่สวนนุกเทคใช้สัญญาเงินกู้ช่วยเหลือหรือซอฟท์โลนจากรัฐบาลจีน กำหนดราคาผลิตภัณฑ์ให้ถูกกว่า และตัดหน้าคู่แข่ง

หนังสือพิมพ์ South Africa’s Mail & Guardian เผยว่าการซื้อขายเครื่องสแกนของนุกเทค มูลค่า 380 ล้านเหรียญสหรัฐในแอฟริกาใต้นั้น เกี่ยวโยงกับสัญญาคอรัปชั่นที่พัวพันไปถึงรัฐสภา

ในฟิลิปปินส์ วุฒิสมาชิกกล่าวหาว่าหน่วยศุลกากรของรัฐบาล ว่าใช้จ่ายเงินล้นเกินในปี 2549-2550 ในการบรรลุข้อตกลงที่ไม่ผูกมัดทางกฎหมาย มูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากซอฟท์โลน ข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาติดตั้งเครื่องสแกนของนุกเทคตามจุดทรานซิทในแดนตากาล็อก.

และที่นามิเบียก็เช่นกัน กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ชี้ว่ารัฐบาลจ่ายเงินเว่อร์ในการติดตั้งเครื่องสแกน โดยเม็ดเงินจำนวนมากของค่าใช้จ่ายที่เว่อร์นั้น ก็ตกอยู่ในอุ้งมือของเอกชน รวมทั้งนักการเมืองนามิเบียนบางกลุ่ม.
กำลังโหลดความคิดเห็น