เอเจนซี-สหรัฐอเมริกากระทุ้งจีนยกเลิกแผนกำหนดให้บริษัทต่างชาติติดตั้งซอฟท์แวร์กลั่นกรองข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือพีซี ซึ่งทางการจีนกำหนดให้เริ่มปฏิบัติตั้งแต่สัปดาห์หน้า พร้อมเตือนจีนฝ่าฝืนกฎฯดับเบิลยูทีโอ วันเดียวกันผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจีนโวยลั่น เข้าสู่หน้าเสิร์ชเอ็นจิน และบริการส่งเมล์ของกูเกิลไม่ได้
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่สหรัฐฯและยุโรปควงแขนกันฟ้ององค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอเมื่อวันอังคาร(23 มิ.ย.) เรื่องที่จีนยับยั้งการส่งออกสินค้าวัตถุดิบที่จำเป็นของภาคอุตสาหกรรมการผลิตซึ่งทำให้ภาคผลิตจีนได้เปรียบชาติอื่น แต่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหา ยันนโยบายมิได้แตกแถวไปจากกฎฯของดับเบิลยูทีโอแต่อย่างใด
ความขัดแย้งดังกล่าวกลายเป็นเหตุบาดหมางอีกประการที่บั่นทอนความสัมพันธ์ทวิภาคีในช่วงจังหวะเวลาที่นานาชาติคาดหวังสหรัฐฯและจีนจับมือกันกอบกู้เศรษฐกิจจากภาวะชะลอตัว
รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์แห่งสหรัฐฯ นายแกรี่ ล็อค และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ รอน เคิร์ก ยื่นจดหมายไปยังจีน แสดงความวิตกกรณีที่จีนกำหนดให้บริษัทผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ต่างชาติ ติดตั้งซอฟท์แวร์ ที่ชื่อว่า "Green Dam" หรือ “เขื่อนสีเขียว” ในเครื่องพีซีที่ส่งมายังประเทศจีน
นายล็อคแถลงการยื่นจดหมายดังกล่าวในวันพุธ(24 มิ.ย.) ระบุว่าจีนทำให้บริษัทต่างๆทำอะไรไม่ถูกเนื่องจากไม่มีการแจ้งล่วงหน้าสู่สาธารณะ เกี่ยวกับการติดตั้งซอฟท์แวร์ที่เชื่อมโยงกับการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารและความปลอดภัยของระบบเครือข่าย
ต่อกรณีขัดแย้งนี้ จีนอ้างว่าซอฟท์แวร์กลั่นกรองข้อมูลออนไลน์นี้จำเป็นสำหรับบรรลุภารกิจปกป้องเยาวชนจากสื่อที่มีเนื้อหากระตุ้นความรุนแรงและสื่อลามกอนาจาร ไชน่าเดลี่ฉบับวันอังคาร(23 มิ.ย.) ออกข่าวยืนยันกำหนดเส้นตายวันที่ 1 ก.ค. ให้คอมพิวเตอร์ชุดใหม่ที่นำเข้ามายังจีนทั้งหมด ติดตั้งซอฟท์แวร์กลั่นกรองข้อมูลอินเทอร์เน็ต
นอกจากความกังวลเรื่องถูกมองหมิ่นเหม่ในการช่วยจีนปิดกั้นเสรีภาพการรับรู้ข่าวสารแล้ว กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ยังชี้ว่าซอฟท์แวร์กลั่นกรองข้อมูล “เขื่อนสีเขียว” ที่บริษัทจินฮุ่ยเป็นผู้จัดจำหน่ายนั้นมีความบกพร่องและไม่ชอบมาพากลทางเทคนิก และอาจใช้ล้วงความลับของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ตลอดจนบล็อกเว็บไซต์ที่รัฐบาลไม่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงโดยอ้างว่าเป็นเนื้อหาคุกคามทางการเมือง
นายเคิร์กชี้ว่าเป้าหมายของจีนนั้นชอบด้วยกฎหมายแต่วิธีการที่นำมาใช้ไม่เหมาะสมโดยมีขอบเขตที่มากเกินไป และข้อเสนอกฎระเบียบใหม่นี้ยังก่อความเคลือบแคลงเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินกฎระเบียบต่างๆของจีน อีกทั้งคำถามการปฏิบัติตามกฎฯของดับเบิลยูทีโอ
กฎฯการติดตั้งซอฟท์แวร์เขื่อนสีเขียวสร้างความไม่พอใจแก่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนเช่นกัน โดยบางกลุ่มเรียกร้องให้ผู้บริการเซอร์เวอร์แก่เว็บไซต์ต่างๆปิดเซอร์เวอร์ในวันที่ 1 ก.ค. เพื่อประท้วงกฎฯดังกล่าวกันอย่างเงียบๆ
กูเกิล "หนีเสือปะจระเข้"
ขณะที่แผนการติดตั้งซอฟท์แวร์เขื่อนสีเขียวของจีนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สนั่นวงการ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหน่วยเฝ้ายามอินเทอร์เน็ตจีน ก็ออกโรงเตือนกูเกิล เสิร์ชเอ็นจินรายใหญ่แห่งสหรัฐฯเป็นครั้งที่สอง โดยให้กูเกิลบล็อกการใช้ภาษาจีนเข้าสู่เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาลามกอานาจารและเนื้อหาที่ชักนำไปในทางเสื่อมศีลธรรม
สืบเนื่องจากในต้นปีรัฐบาลจีนปฏิบัติการใหญ่กวาดล้างเว็บไซต์ที่เผยแพร่เนื้อหาลามกอนาจาร เนื้อหาที่ชักนำผู้คนไปในทางที่ต่ำทรามเสื่อมศีลธรรม รวมทั้งเนื้อหาที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล ภายใต้ระบบตรวจสอบหรือเซนเซ็นที่เรียกว่า “Great Firewall of China” หรือ “กำแพงใหญ่ของจีน” โดยกำหนดบทลงโทษอย่างขั้นรุนแรงถึงปิดเว็บไซต์
และในเย็นวันพุธที่ผ่านมา(24 มิ.ย.) บรรดาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนก็ไม่สามารถเปิดเว็บไซต์หลายเว็บของกูเกิล โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในเซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่งบอกว่าพวกเขาได้รับข้อความแจ้งความผิดพลาดขณะที่พยายามเข้าสู่หน้าสืบค้นข้อมูลของกูเกิล ได้แก่ (www.google.com), หน้าสืบค้นภาษาจีน (www.google.com.cn), และบริการส่งเมล์ (www.gmail.com) ระหว่างเวลา 10.00 น. – 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ไม่ชัดเจนว่าการบล็อกครั้งนี้มีขอบเขตกว้างขวางแค่ไหน
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจีนแห่ร้องเรียนจนโฆษกหญิงของกูเกิลออกมาแถลงว่าทางบริษัทกำลังตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น และในเวลา 11.00 น. ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจีนก็สามารถเข้าเว็บไซต์ได้ตามปกติ
ปัญหาของกูเกิลสะท้อนความยากลำบากของกลุ่มบริษัทต่างแดนที่ทำธุรกิจในจีนซึ่งมีตลาดออนไลน์ขนาดใหญ่สุดในโลกด้วยจำนวนผู้ใช้ร่วม 300 ล้านคน ขณะเดียวกันก็ต้องหลีกเลี่ยงข้อหาปิดกั้นเสรีภาพข้อมูลข่าวสาร.
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่สหรัฐฯและยุโรปควงแขนกันฟ้ององค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอเมื่อวันอังคาร(23 มิ.ย.) เรื่องที่จีนยับยั้งการส่งออกสินค้าวัตถุดิบที่จำเป็นของภาคอุตสาหกรรมการผลิตซึ่งทำให้ภาคผลิตจีนได้เปรียบชาติอื่น แต่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหา ยันนโยบายมิได้แตกแถวไปจากกฎฯของดับเบิลยูทีโอแต่อย่างใด
ความขัดแย้งดังกล่าวกลายเป็นเหตุบาดหมางอีกประการที่บั่นทอนความสัมพันธ์ทวิภาคีในช่วงจังหวะเวลาที่นานาชาติคาดหวังสหรัฐฯและจีนจับมือกันกอบกู้เศรษฐกิจจากภาวะชะลอตัว
รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์แห่งสหรัฐฯ นายแกรี่ ล็อค และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ รอน เคิร์ก ยื่นจดหมายไปยังจีน แสดงความวิตกกรณีที่จีนกำหนดให้บริษัทผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ต่างชาติ ติดตั้งซอฟท์แวร์ ที่ชื่อว่า "Green Dam" หรือ “เขื่อนสีเขียว” ในเครื่องพีซีที่ส่งมายังประเทศจีน
นายล็อคแถลงการยื่นจดหมายดังกล่าวในวันพุธ(24 มิ.ย.) ระบุว่าจีนทำให้บริษัทต่างๆทำอะไรไม่ถูกเนื่องจากไม่มีการแจ้งล่วงหน้าสู่สาธารณะ เกี่ยวกับการติดตั้งซอฟท์แวร์ที่เชื่อมโยงกับการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารและความปลอดภัยของระบบเครือข่าย
ต่อกรณีขัดแย้งนี้ จีนอ้างว่าซอฟท์แวร์กลั่นกรองข้อมูลออนไลน์นี้จำเป็นสำหรับบรรลุภารกิจปกป้องเยาวชนจากสื่อที่มีเนื้อหากระตุ้นความรุนแรงและสื่อลามกอนาจาร ไชน่าเดลี่ฉบับวันอังคาร(23 มิ.ย.) ออกข่าวยืนยันกำหนดเส้นตายวันที่ 1 ก.ค. ให้คอมพิวเตอร์ชุดใหม่ที่นำเข้ามายังจีนทั้งหมด ติดตั้งซอฟท์แวร์กลั่นกรองข้อมูลอินเทอร์เน็ต
นอกจากความกังวลเรื่องถูกมองหมิ่นเหม่ในการช่วยจีนปิดกั้นเสรีภาพการรับรู้ข่าวสารแล้ว กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ยังชี้ว่าซอฟท์แวร์กลั่นกรองข้อมูล “เขื่อนสีเขียว” ที่บริษัทจินฮุ่ยเป็นผู้จัดจำหน่ายนั้นมีความบกพร่องและไม่ชอบมาพากลทางเทคนิก และอาจใช้ล้วงความลับของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ตลอดจนบล็อกเว็บไซต์ที่รัฐบาลไม่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงโดยอ้างว่าเป็นเนื้อหาคุกคามทางการเมือง
นายเคิร์กชี้ว่าเป้าหมายของจีนนั้นชอบด้วยกฎหมายแต่วิธีการที่นำมาใช้ไม่เหมาะสมโดยมีขอบเขตที่มากเกินไป และข้อเสนอกฎระเบียบใหม่นี้ยังก่อความเคลือบแคลงเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินกฎระเบียบต่างๆของจีน อีกทั้งคำถามการปฏิบัติตามกฎฯของดับเบิลยูทีโอ
กฎฯการติดตั้งซอฟท์แวร์เขื่อนสีเขียวสร้างความไม่พอใจแก่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนเช่นกัน โดยบางกลุ่มเรียกร้องให้ผู้บริการเซอร์เวอร์แก่เว็บไซต์ต่างๆปิดเซอร์เวอร์ในวันที่ 1 ก.ค. เพื่อประท้วงกฎฯดังกล่าวกันอย่างเงียบๆ
กูเกิล "หนีเสือปะจระเข้"
ขณะที่แผนการติดตั้งซอฟท์แวร์เขื่อนสีเขียวของจีนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สนั่นวงการ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหน่วยเฝ้ายามอินเทอร์เน็ตจีน ก็ออกโรงเตือนกูเกิล เสิร์ชเอ็นจินรายใหญ่แห่งสหรัฐฯเป็นครั้งที่สอง โดยให้กูเกิลบล็อกการใช้ภาษาจีนเข้าสู่เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาลามกอานาจารและเนื้อหาที่ชักนำไปในทางเสื่อมศีลธรรม
สืบเนื่องจากในต้นปีรัฐบาลจีนปฏิบัติการใหญ่กวาดล้างเว็บไซต์ที่เผยแพร่เนื้อหาลามกอนาจาร เนื้อหาที่ชักนำผู้คนไปในทางที่ต่ำทรามเสื่อมศีลธรรม รวมทั้งเนื้อหาที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล ภายใต้ระบบตรวจสอบหรือเซนเซ็นที่เรียกว่า “Great Firewall of China” หรือ “กำแพงใหญ่ของจีน” โดยกำหนดบทลงโทษอย่างขั้นรุนแรงถึงปิดเว็บไซต์
และในเย็นวันพุธที่ผ่านมา(24 มิ.ย.) บรรดาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนก็ไม่สามารถเปิดเว็บไซต์หลายเว็บของกูเกิล โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในเซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่งบอกว่าพวกเขาได้รับข้อความแจ้งความผิดพลาดขณะที่พยายามเข้าสู่หน้าสืบค้นข้อมูลของกูเกิล ได้แก่ (www.google.com), หน้าสืบค้นภาษาจีน (www.google.com.cn), และบริการส่งเมล์ (www.gmail.com) ระหว่างเวลา 10.00 น. – 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ไม่ชัดเจนว่าการบล็อกครั้งนี้มีขอบเขตกว้างขวางแค่ไหน
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจีนแห่ร้องเรียนจนโฆษกหญิงของกูเกิลออกมาแถลงว่าทางบริษัทกำลังตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น และในเวลา 11.00 น. ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจีนก็สามารถเข้าเว็บไซต์ได้ตามปกติ
ปัญหาของกูเกิลสะท้อนความยากลำบากของกลุ่มบริษัทต่างแดนที่ทำธุรกิจในจีนซึ่งมีตลาดออนไลน์ขนาดใหญ่สุดในโลกด้วยจำนวนผู้ใช้ร่วม 300 ล้านคน ขณะเดียวกันก็ต้องหลีกเลี่ยงข้อหาปิดกั้นเสรีภาพข้อมูลข่าวสาร.
