xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำไต้หวันโอ่จีนอ่อนข้อหนุนสัมพันธ์ฉลุย พร้อมเรียกร้องปักกิ่งเลิกเล็งขีปนาวุธใส่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หม่า อิงจิ่วประธานาธิบดีไต้หวันแถลงในวันครบรอบ 1 ปี ของการดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวันที่ทำเนียบประธานาธิบดีในวันพุธที่ 20 พ.ค. 2552- เอเอฟพี
เอเอฟพี – ประธานาธิบดีไต้หวันแถลงความสัมพันธ์กับจีนราบรื่นขึ้นนับแต่เข้ามารับตำแหน่ง ส่งผลให้สันติภาพและความรุ่งเรืองหวนกลับคืนสู่ช่องแคบไต้หวัน และยังสะเทือนไปถึงผลประโยชน์ในภูมิภาคอีกด้วย พร้อมกันนี้ หม่า อิงจิ่วยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งถอนขีปนาวุธพิสัยยิงไกลตามแนวชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ที่เล็งไปยังไต้หวัน

ในวาระครบรอบหนึ่งปีแห่งการก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของไต้หวัน นายหม่า อิงจิ่ว ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงไทเป โดยระบุว่า หลังจากรัฐบาลของเขาพยายามรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับจีน ทางการจีนได้มีท่าทีตอบรับจนทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาราบรื่นขึ้น

“ในช่วงหนึ่งปีมานี้ ภาพลักษณ์ของช่องแคบไต้หวันได้เปลี่ยนจากดินแดนอันตรายไปสู่เส้นทางแห่งสันติภาพและความรุ่งเรือง”

หลังจากนายหม่าชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นเมื่อต้นปี 2551 และได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของไต้หวัน เขาก็เริ่มปรับปรุงความสัมพันธ์กับจีนและประกาศสงบศึกทางการทูต หลังจากทั้งสองประเทศได้ทำสงครามแย่งชิงพันธมิตรจากทั่วโลกมานานนับสิบปี

ในโอกาสที่ทำงานครบรอบหนึ่งปี นายหม่า ระบุว่า “การดำเนินงานทางการทูตแบบยืดหยุ่น ได้ช่วยลดความขัดแย้งทางการทหารและการเผชิญหน้าทางการเมืองในช่องแคบไต้หวันที่ดำเนินมาถึง 60 ปี ดังนั้น เราจึงมีเวลาเดินหน้าแก้ปัญหาที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน” และยังกล่าวอีกว่า นโยบายของเขาได้สร้างแรงสะเทือนไปทั่วทั้งภูมิภาค และยังสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายในภูมิภาคนี้

สำหรับท่าทีของรัฐบาลจีนนั้น นายหม่า กล่าวว่า หากดูจากถ้อยแถลงของรัฐบาลจีน จะเห็นว่าจีนได้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญทางการเมืองและนโยบายที่ยืดหยุ่น ซึ่งเป็นท่าทีที่ส่งผลดีต่อแนวทางของไต้หวัน

ผู้นำไต้หวันขอจีนถอนขีปนาวุธ

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างแถลงข่าว หม่า อิงจิ่ว ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลจีนถอนขีปนาวุธตามแนวชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ที่เล็งเป้าไปยังไต้หวัน ตั้งแต่ก่อนมีการเจรจากระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองดินแดนช่องแคบไต้หวัน

ไต้หวันระบุว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมากองทัพจีนได้เล็งขีปนาวุธพิสัยยิงไกลระหว่าง 300-600 ไมล์มายังไต้หวันไม่ต่ำกว่า 1,000 ลูก เพื่อเป็นการกดดันไต้หวันไม่ให้แยกตัวเป็นอิสระจากแผ่นดินใหญ่เมื่อครั้งอยู่ภายใต้การนำของอดีตผู้นำไต้หวัน หลี่ เติงฮุย และเฉิน สุยเปี่ยน

แต่หลังจากหม่า อิงจิ่วนั่งเก้าอี้ผู้นำไต้หวัน ทั้งสองฝ่ายได้เปิดการเจรจาถึง 3 รอบหลังจากชะงักงันมานานถึง 9 ปี ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของสองฝ่ายพัฒนาขึ้นตามลำดับ

“ในอดีตทั้งก่อนและหลังรับตำแหน่งผู้นำไต้หวัน ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า หากจะให้พวกเราเจรจาข้อตกลงสันติภาพกับแผ่นดินใหญ่ พวกเขาก็ควรจะถอนขีปนาวุธมากกว่า 1,000 ลูกที่จ่อมายังไต้หวันเสีย เพราะพวกเราไม่ต้องการเจรจาภายใต้ภาวะการขู่โจมตี”

“อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ประเด็นเรื่องความร่วมมือด้านการเงิน และกฎหมาย เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งไม่ได้เร่งรีบอีกต่อไป เพราะความตึงเครียดเหนือช่องแคบได้บรรเทาเบาบางลงแล้ว" หม่ากล่าว

ทั้งนี้ไต้หวันได้แยกตัวออกจากประเทศจีนในปี 2492 หลังจากสงครามกลางเมืองสิ้นสุดลง โดยที่ทางการจีนถือว่าเกาะไต้หวันยังคงอยู่ภายใต้อธิปไตยของจีน และยังรอคอยการนำกลับมารวมเป็นประเทศเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าจะต้องใช้กำลังบังคับก็ตาม

ความสัมพันธ์จีน-ไต้หวันตกต่ำลงอย่างมากในยุคที่ นายเฉิน สุยเปี่ยน เป็นประธานาธิบดีของไต้หวัน โดยทางการจีนเห็นว่าใช่วง 8 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง นายเฉินพยายามที่จะประกาศแก่ชาวโลกว่าไต้หวันเป็นประเทศที่มีอธิปไตยของตัวเอง

แต่หลังจากที่นายหม่าเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ปีที่แล้ว เขาก็ได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์กับจีนและมีการเซ็นข้อตกลงร่วมกันหลายฉบับ จนทำให้เกิด การส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ การเปิดเส้นทางบินตรง และ การเพิ่มโอกาสในการลงทุน ตามมา
กำลังโหลดความคิดเห็น