เอเจนซี่ – หัวหน้าผู้เจรจาด้านความสัมพันธ์กับแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน ยื่นใบลาออกแล้ว อ้างเหตุผลด้านสุขภาพ โดยที่ผ่านมาได้สร้างผลงานไว้ดีมาก
นาย เจียง ปิ่งคุน ประธานมูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบ (SEF) วัย 77 ปี ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งต่อประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว โดยให้เหตุผลด้านสุขภาพ และต้องการมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น
นายหลี่ เจียเฉวียน อดีตผู้อำนวยการสถาบันไต้หวันศึกษาแห่งสถาบันสังคมศาสตร์ของจีนระบุว่า การเปลี่ยนตัวหัวหน้าผู้เจรจาจะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน ซึ่งดำเนินไปในทิศทางบวก
คาดกันว่า ผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทนนายเจียงได้แก่นายอู๋ ป๋อสง ซึ่งนายหลี่ระบุว่า มีความเหมาะสม เนื่องจากมีความเป็นมิตรกับจีน และมีส่วนช่วยมากมายในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกัน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการทำหน้าที่ นายเจียงได้สร้างสรรค์ความสัมพันธ์ที่ดีกับนายเฉิน หยุนหลิน คู่เจรจาแผ่นดินใหญ่ ดังนั้น ผู้มาดำรงตำแหน่งแทนคงต้องปรับตัวสักระยะ
SEF เป็นหน่วยงานกึ่งทางการ ก่อตั้งโดยไต้หวัน เพื่อดำเนินการเจรจากับจีน โดยนายเจียงได้รับการแต่งตั้งไม่นาน หลังจากนายหม่าเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ปีที่แล้ว โดยการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีนถือเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรกของรัฐบาล
จากนั้น นายเจียงได้เปิดการเจรจากับฝ่ายจีนถึง 3 รอบ โดยการเจรจาครั้งแรกเริ่มในเดือนมิถุนยานปีที่แล้ว หลังจากการเจรจาชะงักงันมานานถึง 9 ปี และมีการบรรลุข้อตกลงร่วมกันทั้งหมด 9 ฉบับ อาทิ การเปิดเที่ยวบิน,การขนส่ง และการไปรษณีย์โดยตรงระหว่างกัน, การปรับปรุงความปลอดภัยด้านอาหาร ,การอนุญาตให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่มาท่องเที่ยวไต้หวัน ตลอดจนความร่วมมือด้านการเงินและการศาลในด้านคดีอาญา
อย่างไรก็ตาม ระหว่างดำรงตำแหน่ง นายเจียงตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งจากข้อกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ของธุรกิจครอบครัวบนแผ่นดินใหญ่ และบทบาทของเขาในฐานะประธานมูลนิธิไซโนคอน อินดัสเทรียล สแตนดาร์ดส์ ซึ่งเป็นสมาคมพัฒนาด้านไอทีระหว่างจีนกับไต้หวัน ซึ่งไม่แสวงผลประโยชน์ โดยต่อมา นายเจียงได้ลาออกจากตำแหน่ง
นอกจากนั้น มีข่าวลือด้วยว่า นายเจียงยังไม่พอใจการเล่นการเมืองของพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล และความคิดหัวเก่าของ“สภากิจการแผ่นดินใหญ่”ของไต้หวัน ในเรื่องการเปิดเสรีความสัมพันธ์ด้านธุรกิจกับแผ่นดินใหญ่ ซึ่งอาจมีส่วนทำให้เขาตัดสินใจลาออกในที่สุด