xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ส่งออกจีนหันมาเน้นตลาดในปท. ชดเชยออร์เดอร์ต่างชาติหดตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายแบบเดินจูงมือนางแบบมาในเชิร์ตยี่ห้อบริโอโซ ภายในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัทเบอร์คัม การ์เมนท์ ที่หันมาลุยตลาดในประเทศ
รอยเตอร์ – ผู้ส่งออกชาวจีนหันมาเน้นขายสินค้าในประเทศแทนที่การส่งออก หลังเศรษฐกิจโลกซบเซาจนสูญเสียออร์เดอร์จากต่างประเทศไปมาก แต่สินค้าส่งออกเหล่านี้ยังต้องเจออุปสรรคหลายด้าน ตั้งแต่การหาตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นไปจนถึงวัฒนธรรมการบริโภคของชาวจีน

ถึงแม้สินค้าส่งออกจากจีนจะมีคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ดังๆ ของต่างประเทศ แต่ก็ยังขายได้ยากในตลาดของจีน เนื่องด้วยปัจจัยเรื่องการแข่งขันที่รุนแรง การไม่มีแบรนด์ท้องถิ่น และขาดเครือข่ายกระจายสินค้าในประเทศ

บริษัทเจ้อเจียง เบอร์คัม การ์เมนท์ ผู้ผลิตเสื้อเชิร์ตส่งออกให้ร้านเสื้อยี่ห้อดัง เช่น เบเน็ตตองของอิตาลี ได้หันมาบุกตลาดเสื้อเชิร์ตสำหรับบุรุษภายในประเทศ ภายใต้ยี่ห้อ “บริโอโซ” โดย นายเฉิน เจี่ยนกั้ว รองประธานบริษัท กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วบริษัทได้ไปเปิดขายสินค้าในสหรัฐฯ และยุโรป และพบว่าการค้าขายที่นั่นซบเซามาก จึงทำให้มั่นใจว่าการหันมาเน้นตลาดภายในประเทศเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

“เราคิดไว้นานแล้วว่าจะนำสินค้าที่ติดยี่ห้อของเราเองมาขายในประเทศ แต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจถือเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันให้เราตัดสินใจเร็วขึ้น” นายเฉิน ระบุ

บริษัทเบอร์คัมวางแผนว่าจะค่อยๆ ยกเลิกการผลิตเสื้อเชิร์ตให้แก่ยี่ห้อดังในประเทศตะวันตก เพราะการยกเลิกทันทีจะทำให้เกิดความเสี่ยงทางธุรกิจ และยังหวังว่ายอดขายเสื้อเชิร์ตยี่ห้อที่บริษัทเพิ่งผลิตขึ้นมาขายภายในประเทศจะเริ่มกระเตื้องขึ้น หลังจากยอดส่งออกลดลงเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ในโรงงานของบริษัทเจ้อเจียง เบอร์คัม การ์เมนท์ พนักงานกำลังใช้จักรเย็บเสื้อเชิร์ตตามออเดอร์ - ภาพ รอยเตอร์
ในปีนี้บริษัทเบอร์คัมตั้งเป้าว่า จะสามารถขายเสื้อเชิร์ตยี่ห้อบริโอโซได้อย่างน้อย 1 ล้านตัว หรือคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของยอดผลิตทั้งปี โดยเป็นการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ทั้งนี้ นายเฉิน กล่าวว่า “มันเป็นเป้าหมายที่สูงมาก เพราะเราพลาดเทศกาลลดราคาสินค้าในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนไปแล้ว เหลือเพียงเทศกาลลดราคาช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเท่านั้น”

ขณะที่ นายพอล เฟรนช์ นักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาด้านค้าปลีกในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า บริษัทชื่อดังอย่างเบอร์คัมคงหาหุ้นส่วนได้ไม่ยาก “การมีหุ้นส่วนถือเป็นธรรมดาของการทำธุรกิจในจีน และหากเป็นเช่นนั้น ก็จะมีร้านขายเสื้อเชิร์ตเปิดอีกหลายร้าน แต่สินค้าที่มียี่ห้อเท่านั้นจึงจะขายได้”

การที่ผู้ส่งออกของจีนหันมาหาตลาดใหม่ๆ นอกเหนือจากตลาดส่งออกในสหรัฐฯ และยุโรป ถือเป็นเหตุผลที่ดี เพราะการส่งออกเสื้อผ้าของจีนในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงไป 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ส่วนการส่งออกสินค้าไฮ-เทคยิ่งแย่ลงไปอีก เพราะมียอดลดลงถึง 23 เปอร์เซ็นต์ จนทำให้ผู้ผลิตสินค้าอิเลคทรอนิกส์ต้องหันมาเน้นตลาดในประเทศมากขึ้น

ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังคงเชื่อมั่นต่อการลงทุนจากต่างประเทศและการส่งออก ความต้องการสินค้าภายในประเทศก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2551 ภาคธุรกิจค้าปลีกของจีนเติบโตขึ้น 21.6 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้เป็นผลมาจากรายได้ของชาวจีนที่สูงขึ้น และโครงการช่วยเหลือจากรัฐบาลที่กระตุ้นกำลังซื้อในชนบท อย่างไรก็ตาม หลายๆ บริษัทที่หันมาเน้นตลาดภายในประเทศก็ยังต้องเผชิญกับอุปสรรค

นายไมเคิล เกา เซลล์แมนจากโรงงานผลิตสินค้าอิเลคทรอนิกส์ในเมืองเซินเจิ้น กล่าวว่า การที่รัฐบาลจีนจ่ายเงินภาษีคืนให้แก่สินค้าส่งออกบางชนิด เช่น สิ่งทอ และอิเลคทรอนิกส์ ทำให้ราคาสินค้าของบริษัทส่งออกจะสูงกว่าสินค้าที่วางขายในประเทศอย่างน้อย 15 เปอร์เซ็นต์ และยังว่า วัฒนธรรมทางธุรกิจในประเทศที่แตกต่างจากต่างประเทศ ทำให้การเปลี่ยนตลาดสินค้ามาสู่ภายในประเทศเป็นไปอย่างยากลำบาก

“ลูกค้าในประเทศมีความแตกต่างจากลูกค้าในต่างประเทศมาก ทั้งในแง่คุณภาพของสินค้า คุณภาพของผู้ซื้อ และจำนวนออร์เดอร์สินค้า” นายเกา ระบุ

ด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีน ที่จัดมหกรรมแสดงสินค้ากว่างตง และเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสินค้าชาวจีนได้เข้าชมงานเป็นครั้งแรก ก็ยอมรับเช่นกันว่า บริษัทส่งออกที่หันมาขายสินค้าในประเทศต้องเจอกับอุปสรรค โดยกระทรวงกำลังปรับปรุงเครือข่ายขนส่งสินค้า เพื่อทำให้บริษัทส่งออกสามารถขายสินค้าในประเทศได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ หลายๆ บริษัทยังกังวลว่า การขายสินค้าให้แก่ซัพพลายเออร์ในประเทศ เป็นการเสี่ยงต่อการถูกขโมยสิทธิทางปัญญา ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทต่างชาติได้ร้องเรียนต่อรัฐบาลจีนมานานแล้ว

ขณะที่บริษัทส่งออกกำลังเผชิญกับอุปสรรค แต่ผู้ได้รับประโยชน์กลับเป็นผู้บริโภคชาวจีน เพราะพวกเขาสามารถหาซื้อสินค้าที่เคยวางขายในชาติตะวันตกได้ในร้านค้าภายในประเทศ และยังมีสินค้าให้เลือกมากกว่าเดิม

หวง ซันซัน สาวออฟฟิศในกรุงปักกิ่งในวัยยี่สิบเศษ กล่าวว่า เธอประทับใจมากที่ร้านประจำของเธอนำสินค้านานาชนิดมาวางขายเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งของใช้ในครัว ร่ม หรือเครื่องใช้ต่างๆ ทำให้เธอมีสินค้าให้เลือกซื้อมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เธอบ่นเกี่ยวกับสินค้าที่เคยส่งออกมีเพียงเรื่องเดียว นั่นคือขนาดของสินค้าไม่ค่อยเหมาะกับร่างกายของชาวจีนอย่างเธอนัก เพราะถูกออกแบบสำหรับชาวตะวันตก จึงทำให้มีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับชาวจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น