บลูมเบิร์ก – จีน ผู้บริโภคพลังงานอันดับ 2 ของโลก วางแผนที่จะปิดโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็ก รวมทั้งโรงหลอมเหล็กล้าสมัยเพิ่มภายในปี พ.ศ.2554 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดปัญหามลภาวะเป็นพิษ
คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ซึ่งเป็นองค์กรวางแผนเศรษฐกิจระดับสูงของประเทศจีนระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (3 พ.ค.) ว่า โรงกลั่นน้ำมันที่มีศักยภาพการผลิตต่ำกว่า 1 ล้านตันต่อปี หรือ 20,000 บาร์เรลต่อวัน จะถูกปิด และทางการจะแนะแนวให้โรงงานขนาดเล็กที่สามารถผลิตน้ำมันได้ 1-2 ล้านตันต่อปีให้หยุดดำเนินกิจการ หรือควบรวมกิจการกัน
ทั้งนี้ โรงกลั่นเอกชนขนาดเล็ก ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในมณฑลซันตงและส่านซี มีศักยภาพการผลิตน้ำมันรวมกันประมาณ 80 ล้านตันต่อปี ในขณะที่โรงงานแปรรูปน้ำมันรายใหญ่สุดของประเทศซึ่งดำเนินการโดยบริษัทน้ำมัน ไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคัล รายเดียวมีความสามารถในการผลิตมากถึง 20 ล้านตันต่อปี
ด้าน หวัง จิง นักวิเคราะห์ธุรกิจน้ำมันระดับอาวุโสของบริษัทหลักทรัพย์โอเรียนท์แสดงความเห็นว่า แผนการณ์ข้างต้นของรัฐบาลจีนนั้นส่งสัญญาณให้เห็นว่า โรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กอาจถูกวิสาหกิจรัฐซื้อกิจการ เพื่อเสริมความเข้มแข็งของตัวเองในตลาดพลังงานจีน หรือหากมีการควบรวมกิจการระหว่างกัน ก็หมายถึงจะมีคู่แข่งที่มีแรงแข่งขันเพิ่มขึ้นในวงการ
นอกจากนี้รัฐบาลยังจะห้ามมิให้มีการสร้างโรงกลั่นน้ำมันดินและน้ำมันหนักด้วย แต่ทางคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งนี้เมื่อปลายปีที่แล้วจีนได้ปิดโรงงานเก่าเทคโนโลยีล้าหลังซึ่งมีความสามารถกลั่นน้ำมันรวมกันได้มากกว่า 10 ล้านตันต่อปีไปแล้วหลายโรง
และเพื่อลดการใช้พลังงาน รวมทั้งมลพิษ รัฐบาลจีนยังได้เพิ่มภาษีบริโภคผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และตั้งเป้าเพิ่มรถยนต์ใช้พลังงานทางเลือกใหม่บนท้องถนนภายในปี 2555 ทั้งนี้ รถยนต์ในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่สุดในโลกรองจากสหรัฐฯ บริโภคน้ำมันคิดเป็นครึ่งหนึ่งของน้ำมันทั้งหมดของประเทศ
“การปิดโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กอาจช่วยลดความต้องการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงของจีนลงได้ แต่การนำเข้าน้ำมันดิบก็อาจมากขึ้นแทนหากโรงกลั่นขนาดเล็กเหล่านี้ยกระดับตัวเองขึ้นมาดำเนินกิจการกลั่นน้ำมันดิบแทนน้ำมันเชื้อเพลิง” หวังกล่าว
โดยปัจจุบันโรงงานขนาดเล็กของจีนดำเนินการกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นน้ำมันเบนซินและดีเซลคุณภาพต่ำเท่านั้น เพราะมีเพียงบริษัทน้ำมันรัฐจึงจะสามารถนำเข้าน้ำมันดิบได้
นอกจากโรงกลั่นน้ำมันแล้ว คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนระบุว่า จีนจะปิดโรงงานถลุงเหล็กที่มีเทคโนโลยีล้าหลังภายในปี 2554 พร้อมทั้งกำจัดเทคโนโลยีผลิตกระดาษ ตู้เย็น เคมีภัณฑ์และสิ่งทอที่ล้าสมัยด้วย