จีนแย้มไฟเขียวต่างชาติออกพันธบัตร-หุ้น

เอเอฟพี – จีนเผยเตรียมไฟเขียวให้บริษัทต่างชาติออกพันธบัตรสกุลเงินหยวนและหุ้นในประเทศจีน พร้อมเผยรายละเอียดแผนผลักดันให้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นศูนย์กลางการเงินและชิปปิ้งนานาชาติ

คณะมุขมนตรีเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า จีนจะค่อยๆ อนุญาตให้สถาบันเพื่อการพัฒนาระดับนานาชาติ อาทิ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย สามารถออกพันธบัตรสกุลเงินหยวนและหุ้นในประเทศจีนได้

พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายผลักดันเซี่ยงไฮ้ให้กลายเป็นศูนย์กลางการเงินและชิปปิ้งของโลกภายในปี พ.ศ.2563 อันสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศและสถานะการเงินที่สูงขึ้น

“เซี่ยงไฮ้เป็นตลาดการเงินที่สมบูรณ์พร้อมของแผ่นดินใหญ่...มีฐานการผลิตที่แข็งแรงและความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ” คณะมุขมนตรีกล่าวในรายงานเมื่อวันพุธ

นอกจากนี้เซี่ยงไฮ้ยังเป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์และท่าเรือหลักของประเทศ ซึ่งมีความคึกคักที่สุดในโลกด้วยปริมาณสินค้าลงท่า 580 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว

ดังนั้น เพื่อส่งเสริมเซี่ยงไฮ้ให้ขึ้นเป็นศูนย์กลางชิปปิ้งระดับโลก รัฐบาลจะค่อยๆ ยกเว้นภาษีรายได้จากการดำเนินธุรกิจประกันการขนส่งระหว่างประเทศให้แก่บริษัทประกันภัย

รายงานของคณะมุขมนตรียังระบุอีกว่า บริษัทชิปปิ้งจะได้รับอนุญาตให้จัดตั้งบริษัทสินเชื่อเช่าการเงิน ซึ่งจะสามารถยืมและให้กู้ในตลาดอินเตอร์แบงก์ ซึ่งมีฐานอยู่ในเซี่ยงไฮ้ และสามารถออกพันธบัตรได้ด้วย

ส่วนเรื่องข้อจำกัดเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายเงินเข้าและออกของประเทศจีนที่เข้มงวด ซึ่งเป็นหนี่งในอุปสรรคใหญ่ที่สุดต่อความใฝ่ฝันของเซี่ยงไฮ้ในการเลื่อนชั้นเป็นศูนย์กลางการเงินนานาชาตินั้น รัฐบาลจีนกำลังพยายามแก้ไข

โดยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว รัฐบาลจีนเผยว่าจะอนุญาตให้ทดลองใช้เงินหยวนเป็นสกุลเงินหักชำระบัญชีการค้าระหว่างประเทศในเขตมณฑลกวางตุ้ง และเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำฉางเจียง (บริเวณนครเซี่ยงไฮ้,มณฑลเจียงซู และมณฑลเจ้อเจียง) เพื่อทำการค้ากับฮ่องกงและมาเก๊า และอีกเขตหนึ่ง คือ เขตปกครองตนเองของชนชาติจ้วงกว่างซี และมณฑลหยุนหนัน เพื่อทำการค้ากับประเทศกลุ่มอาเซียน 10 ประเทศ

ซึ่งการเปิดทดลองใช้เงินหยวนในการทำการค้าระหว่างประเทศนี้จะเป็นการปูทางไปสู่การยกระดับเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินสากลในระยะยาว และจะช่วยผู้ส่งออกจีนและคู่ค้าบรรเทาความเสี่ยงต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินด้วย ตามที่เจ้า ซีจวิน ศาสตราจารย์ด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยเหรินหมินแสดงทัศนะ