อนาคตจีเอ็มในจีนสดใส หลังตลาดรถยนต์ส่อเค้าโต

เอเชี่ยน วอลล์ สตรีท เจอร์นัล – จีเอ็ม หันมามุ่งเน้นตลาดรถยนต์ในจีน หวังช่วยพยุงสถานะการเงินให้พ้นสภาพล้มละลาย เผยหุ้นส่วนในจีนยอดขายกระฉูด ขณะที่กิจการจีเอ็มในที่อื่นๆย่ำแย่

จีเอ็ม (เจเนอรัล มอเตอร์) ยักษ์ใหญ่วงการรถยนต์ที่มียอดผลิตมากที่สุดในโลก ยังคงมาแรงในตลาดรถยนต์ของจีน เนื่องจากหุ้นส่วนท้องถิ่นทั้ง 2 รายคือ เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ และหลิวโจว อู่หลิง มอเตอร์ส ช่วยพยุงสถานะเอาไว้

นายเรย์ ยัง หัวหน้าฝ่ายการเงินของจีเอ็ม กล่าวว่า การที่บริษัทอู่หลิงเตรียมที่จะผลิตรถยนต์โดยสารราคาถูกออกสู่ตลาด หลังจากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาอู่หลิงได้เน้นลูกค้าเฉพาะกลุ่มเกษตรกรและลูกค้าในชนบท โอกาสนี้จะทำให้จีเอ็มซึ่งเป็นหุ้นส่วนของอู่หลิงพลอยได้อานิสงส์ไปด้วย

นายยัง กล่าวด้วยว่าถึงแม้จะยังไม่มีรถยนต์โดยสารจากโรงงานของอู่หลิงออกมา แต่ในช่วงหลายปีมานี้ ยอดขายรถยนต์ของอู่หลิงได้เพิ่มขึ้นถึงสิบเท่าตัว โดยมียอดขายปีละกว่า 5 แสนคัน ซึ่งมากกว่ายอดขายรถยนต์ของจีเอ็มทุกยี่ห้อในประเทศจีนรวมกัน

นอกจากนี้ อู่หลิงยังทำสัญญาที่จะผลิตรถยนต์เชฟโรเล็ตขนาดเล็กเพื่อป้อนตลาดในจีนอีกด้วย

นอกจากตลาดในจีนแล้ว จีเอ็มยังวางแผนที่จะขยายการผลิตออกสู่ตลาดในประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิค โดยประธานบริษัทจีเอ็มเอเชีย-แปซิฟิค นายนิค ไรลีย์ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า หากบริษัทอู่หลิงผลิตรถยนต์โดยสารออกมาขาย ก็จะทำให้แผนการของจีเอ็มดังกล่าวประสบผลสำเร็จ

นอกจากจีเอ็มแล้ว บริษัทเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ ก็มีหุ้นอยู่ในอู่หลิงเช่นกัน โดยนายไรลีย์เห็นว่าภาระสำคัญขณะนี้ก็คือ ทำอย่างไรจีเอ็มจึงจะมีบทบาทนำ เพื่อทำให้ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนก้าวไปเป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก

ทั้งนี้ ก่อนหน้าผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติที่ต้องการเข้าไปตีตลาดในจีน จะต้องมีบริษัทในท้องถิ่นเป็นหุ้นส่วน ซึ่งจะส่งผลให้รถยนต์ที่ผลิตในจีนมีคุณภาพสูงขึ้นและมีเทคโนโลยีทันสมัย นี่เป็นช่องทางปกติที่ผู้ผลิตรถยนต์จากนานาชาติทั้ง จีเอ็ม โฟล์คสวาเก้น เอจี และโตโยต้า มอเตอร์ ใช้กัน เพื่อเข้าไปตีตลาดรถยนต์ของจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ จีเอ็มต้องชะลอการผลิตรถยนต์ในจีน เนื่องจากต้องพึ่งพาเงินกู้จำนวน 15,400 ล้านเหรียญจากรัฐบาลสหรัฐฯ และเงินกู้จากรัฐบาลอื่นๆ อีกกว่า 1 พันล้านเหรียญ นอกจากนี้ ธุรกิจในรัสเซียและละตินอเมริกา ก็เจอกับภาวะลำบากอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลก

ขณะที่หน่วยผลิตรถยนต์ของจีเอ็มในประเทศต่างๆ ทั่วโลกต้องประสบปัญหา แต่บริษัทจีเอ็มในจีนกลับเติบโตขึ้น และถือเป็นหน่วยผลิตเพียงไม่กี่แห่งของจีเอ็มที่สามารถรอดตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจ

จีเอ็มมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิต และวางแผนเพิ่มหุ้นในบริษัทอู่หลิงให้เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทเกือบครึ่งหนึ่ง ตลอดจนหาหุ้นส่วนท้องถิ่นรายใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังวางแผนว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเปิดตัวรถยนต์ใหม่ๆ กว่า 10 รุ่น รวมทั้งตั้งเป้าว่าจะเปิดตัวรถยี่ห้อเชฟโรเล็ตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าในจีนอีกด้วย

“หากเราต้องการเป็นผู้ชนะในเวทีโลก เราจะต้องผ่านการชนะในจีนเสียก่อน” นายยัง ระบุ

เป็นที่คาดว่าจีนจะกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก แซงหน้าประเทศญี่ปุ่นในปีนี้ นอกจากนี้ จีเอ็มเคยคาดการณ์ว่าจีนแซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นแท่นเป็นตลาดใหญ่ที่มียอดขายรถยนต์มากเป็นอันดับหนึ่งของโลกในปี 2558 แต่ขณะนี้ยอดขายรถยนต์ในจีนระหว่างไตรมาสแรกของปีนี้ ก็จะก้าวแซงหน้าสหรัฐฯไปแล้ว