เอเจนซี--ผู้นำจีนยอมรับว่าได้ขยายทุนสำรองทองคำอย่างเงียบๆ จนปัจจุบันมีทองคำถึง 1,054 ตัน ในคลังสำรอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 76 จากปี 2546
นาง หู เสี่ยวเลี่ยน หัวหน้าสำนักงานปริวรรตเงินตราต่างประเทศแห่งชาติ เผยระหว่างการแถลงข่าวในเช้าวันนี้(24 เม.ษ.) ว่าขณะนี้จีนมีทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ เพิ่มเป็น 1,054 ตัน จากเดิมที่ถือครองอยู่ 600 ตันเมื่อปี 2546 ซึ่งเป็นปีที่จีนได้ปรับตัวเลขทุนสำรองทองคำล่าสุดท้าย โดยปริมาณทองคำที่เพิ่มขึ้น เท่ากับ 454 ตัน
การเปิดเผยดังกล่าว ยืนยันกระแสเก็งในตลาดทองคำโลก ที่ลือกันหนาหูว่าจีนได้ซื้อทองคำสะสมไว้เป็นเวลาหลายปี ขณะที่ทุนสำรองสกุลเงินต่างประเทศพุ่งกระฉูด และกระแสเก็งนี้แรงมากนับจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ จีนมีทุนสำรองสกุลเงินตราต่างประเทศขนาดใหญ่สุดในโลก เท่ากับ 1.95 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ณ เดือนมีนาคม
ขณะนี้ ประเทศที่มีทุนสำรองทองคำมากกว่า 1,000 ตัน มีอยู่ 6 ชาติ และจีนเป็นชาติที่มีทองสำรองทองคำมากเป็นอันดับห้า
ข่าวการยอมรับเรื่องการซื้อทองคำของผู้นำจีน ดันราคาทองคำสูงขึ้นร้อยละ 1 เท่ากับ 910.80 เหรียญสหรัฐ ต่อ 1 ออนซ์ และราคาทองคำในตลาดลอนดอน ทะยานสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากรายงานข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันศุกร์ (24 เม.ษ.) และจากการคำนวณ ของรอยเตอร์ มูลค่าทองคำ ณ ราคาปัจจุบัน ที่จีนถือครอง เท่ากับ 30,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
นางหู เสี่ยวเลี่ยนยังระบุว่า เมื่อเร็วๆนี้ จีนได้รายงานการการเปลี่ยนการถือครองทองคำแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ และจะระบุการเปลี่ยนแปลงล่าสุดนี้ในรายงานของธนาคารกลาง และรายงานสถิติดุลการชำระเงินด้วย
วงการตลาดทองชี้ว่าการเปิดเผยของหัวหน้าสำนักงานปริเงินตราต่างประเทศของจีน เป็นข่าวดีสำหรับตลาด และบ่งชี้แนวโน้มการซื้อขายที่มากขึ้น “จีนจะซื้อทองเข้าทุนสำรองมากขึ้น เพื่อปรับปรุงสินทรัพย์ในทุนสำรองระหว่างประเทศ” เหยา ไห่เฉียว ประธาน Longgold Asset Management กล่าว
โห่ว ฮุ่ยหมิ่น รองเลขาธิการใหญ่สมาคมทองคำจีน เผย จีนจะสร้างทุนสำรองทองคำ ถึง 5,000 ตัน เนื่องจากสถานภาพใหม่บนเวทีระหว่างประเทศ และวิกฤตการเงิน โดยวิกฤตการเงินนั้น ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และอาจลดความสำคัญลงในทุนสำรองสกุลเงินระหว่างประเทศ
