เอเจนซี--วานนี้ พญามังกรจัดพาเหรดโชว์ศักยภาพกองทัพเรือครั้งใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในโอกาสครบรอบ 60 ปี ของกองกำลังนาวี “เปิดพุง” โชว์ทั้งเรือรบ และเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ที่สายลับมะกันชอบสอดแนมแอบดูจนเกิดเรื่องเผชิญหน้ากันเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ในวาระครบรอบ 60 ของการสถาปนากองทัพเรือแห่งชาติจีน วันที่ 23 เมษายน รัฐบาลมังกรจัดพาเหรดกองกำลังสรรพาวุธครั้งใหญ่สุด ทั้งเรือพิฆาต, เรือรบเคลื่อนไหวเร็วขนาดเล็ก, เรือติดขีปนาวุธนำวิถี, และฝูงเครื่องบิน รวม 56 ชุดด้วยกัน โชว์แขกรับเชิญจาก 14 ชาติ ที่ชายฝั่งเมืองท่าชิงเต่า มณฑลซันตง
นับตั้งแต่มีการสถาปนาทัพนาวี เมื่อปี 2490 (1949) จีนจัดแสดงพาเหรดกองทัพเรือไม่กี่ครั้ง โดยครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 4 โดยเป็นครั้งแรกของการจัดแสดงระดับนานาชาติ และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จีนนำฝูงเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ออกมาโชว์ให้ชาวโลกเห็นกันจะจะ
เรือดำน้ำ เรือรบ รุ่น “เมดอินไชน่า”
สำหรับฝูงเรือดำน้ำจีนที่นำออกโชว์ในขบวนพาเหรดได้แก่ เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ ได้แก่ ฉางเจิงหมายเลข 6, ฉางเจิงหมายเลข 3 และเรือดำน้ำทั่วไป ได้แก่ ฉางเฉิงหมายเลข 177, ฉางเฉิงหมายเลข 218
ดาวเด่นในขบวนพาเหรดยังมีฝูงเรือพิฆาตติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีรุ่นใหม่ที่จีนออกแบบและผลิตเอง ได้แก่ รุ่นใหม่ล่าสุดคือ เรือพิฆาตฯ “เสิ่นหยาง” รุ่นนี้คลอดออกมาประจำการในกองกำลังเมื่อปี 2549, เรือพิฆาตฯ “หลันโจว” เข้าประจำการกองทัพในปี 2548, และ “กว่างโจว” เข้าประจำการในปี 2547
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเรือรบแล่นเร็วขนาดเล็กติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี รุ่นใหม่ที่จีนออกแบบและผลิตเอง ได้แก่ “เรือรบฯ “สีว์โจว” ประจำการในปี 2551, เรือรบฯ “ลั่วหยาง” ประจำการในเดือนกันยายน 2548, เรือรบฯ “เหมียนหยาง” ประจำการในเดือนเมษายน 2548 เป็นต้น
หู จิ่นเทา ในฐานะประมุขแห่งรัฐ และประธานคณะกรรมการทหาร โดยสารเรือพิฆาตที่ชื่อ “สือเจียจวง” ตรวจพลพาเหรด ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ หู จิ่นเทา ยืนยันแก่บรรดาผู้แทนกองทัพนาวีต่างชาติว่า ศักยภาพนาวีของจีน ไม่เป็นภัยคุกคามแก่ผู้ใดทั้งสิ้น
“ทั้งบัดนี้ และในอนาคต ไม่ว่าศักยภาพกองทัพจะพัฒนาไปถึงขีดขั้นไหน จีนก็จะไม่แสวงอำนาจเจ้าโลก” กลุ่มสื่อต่างชาติระบุถ้อยคำสำคัญ ที่โต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการขยายเขี้ยวเล็บกองทัพจีน
แต่ผู้สันทัดกรณี ชี้ว่า “มันเป็นการโชว์อำนาจดีๆนี่เอง นอกจากนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ที่มีสองนัยสองข้อความ ว่าจีนเคารพกติกาในเกมระหว่างประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ประกาศก้องถึงระดับพละกำลังกองทัพเรือจีนในปัจจุบัน” อาจารย์รัฐศาสตร์ Jean-Pierre Cabestan ประจำมหาวิทยาลัยแบ๊บติสต์ ฮ่องกง (Hong Kong Baptist University)
นอกไปจากพาเหรดสรรพาวุธของนาวีจีนแล้ว ยังมีกลุ่มเรือรบ 21 ลำ จาก 14 ชาติ เข้าร่วมพาเหรดครั้งนี้ด้วย ทั้งจากสหรัฐอเมริกา รัสเซีย และฝรั่งเศส ฯลฯ โดยผู้นำจีนกล่าวว่าการเชิญกองกำลังนานาประเทศเข้าร่วมด้วยนี้ ก็เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาทางการทหารของประเทศจีน
“กระแสสงสัยเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลกนั้น มาจากการขาดความเข้าใจจีน” รองผบ.ทัพเรือมังกร นาย ติง อี้ผิง กล่าว
ทั้งนี้ ผู้นำในวอชิงตันมักวิพากษ์วิจารณ์จีนเรื่องการขยายกองกำลัง และความไม่โปร่งใสในการใช้จ่ายด้านทหาร นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผู้นำกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯหรือเพนทากอนยังหาว่า เรือจีนละเมิดน่านน้ำสากลเข้ามารังแกเรือเก็บข้อมูลอเมริกันในน่านน้ำบริเวณเกาะไห่หนัน (ไหหลำ) ในทะเลจีนใต้ จนเรืออเมริกันต้องฉีดน้ำใส่เพื่อป้องกันเรือชนกัน
ด้านจีนปฏิเสธคำกล่าวหา และชี้ว่า เรือของสหรัฐฯทำกิจกรรมผิดกฎหมายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน ขณะที่กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้ว่าบริเวณที่เรือจีนและสหรัฐฯเผชิญหน้ากันนั้น เป็นบริเวณที่จีนกำลังขยายฐานทัพเรือ และเป็นเขตทดลองเรือดำน้ำด้วย
ในต้นเดือน จีนยังได้ส่งกองเรือลาดตระเวนพลเรือนประจำการในทะเลจีนใต้บริเวณหมู่เกาะพิพาทคือ สแปรตลีย์ ซึ่งหมู่เกาะนี้ มีประเทศเอเชียอ้างสิทธิเหนือดินแดน 6 ชาติด้วยกันได้แก่ จีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไน ไต้หวัน
ความเชื่อมั่นในพละกำลังนาวีของจีน ยังสะท้อนชัดจากการตัดสินใจส่งเรือรบเข้าร่วมปฏิบัติการปราบโจรสลัดในอ่าวเอเดน นอกฝั่งโซมาเลีย นับเป็นปฏิบัติการต่อสู้นอกดินแดนครั้งแรกของเรือรบจีน
นอกจากนี้ พลเรือเอก อู๋ เซิ่งลี่ ยังเผยในเดือนนี้ว่า จีนจะพัฒนาฝูงเรือรบรุ่นใหม่ และเครื่องบินเพื่อพัฒนาศักยภาพปฏิบัติการระยะไกล
อย่างไรก็ตาม นาย Cabestan ประเมินศักยภาพทัพเรือของจีน ยังล้าหลังกว่าชาติอื่นๆ อย่างน้อยๆขณะนี้ จีนก็ยังไม่มีเรือบรรทุกเครื่องบิน แม้มีแผนจะสร้างก็ตาม “ในแง่ของเทคโนโลยีแล้ว จีนยังห่างชั้นจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และรัสเซีย แต่ในแง่ในของระวางน้ำหนักแล้ว จีนเป็นที่หนึ่งในเอเชีย”
...ชมชุดภาพการแสดงพาเหรดสรรพาวุธของกองกำลังนาวีจีน และ 14 ชาติ ในวาระครบรอบ 60 ปี การสถาปนากองทัพเรือของกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งชาติจีน (พีแอลเอ) วันที่ 23 เม.ษ. ที่เมืองท่าชิงเต่า มณฑลซันตง /ภาพโดยเอเอฟพี
